เปิด 7 หุ้น-กองรีท รับประโยชน์ “ดอกเบี้ยขาลง”
เปิด 7 หุ้น-กองรีท รับประโยชน์ “ดอกเบี้ยขาลง” ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้รวม 0.5% หนุนกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายปลายปีอยู่ที่ 4.25-4.5% นำทีมเด่น DELTA-MTC-CPALL-MINT-ADVANC-LHHOTEL-WHAIR
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนรับแนวโน้ม “ดอกเบี้ยขาลง” จากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุ ภายหลังจากสำนักสถิติกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเงินเฟ้อ CPI ทั่วไปเดือน ก.ย. +2.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +0.2% เทียบเดือนก่อนหน้า สูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อย แต่ลดลงจาก prev. ที่ +2.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการปรับเพิ่มขึ้นภาคบริการ อาทิ 1.) รถยนต์มือสอง 2.)ราคาเสื้อผ้า
อย่างไรก็ตามหมวดที่เฟดให้น้ำหนักและมีผลต่อเงินเฟ้อ คือ ค่าเช่าที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะ OER (25% ของตะกร้าเงินเฟ้อ) ชะลอลงต่อเนื่องโดยเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ +0.3% ส่วนเดือนส.ค.อยู่ที่ +0.4% และ 0.5% ในเดือน ก.ค. ทำให้มองมีโอกาสที่เงินเฟ้อสหรัฐช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสปรับลงและเข้าสู่กรอบเฟดวางไว้
โดยภาพรวมระดับเงินเฟ้อ CPI เดือน ก.ย. ยังคงสะท้อนกระบวณการชะลอลงของเงินเฟ้อ (Disinflationary Process) ที่ยังต่อเนื่อง แม้จะไม่เร็วดังที่ตลาดคาด โดยสรุปเรามองภาพดังกล่าวยังหนุนให้เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC อีก 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ ครั้งละ 0.25% รวม 0.5% หนุนกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายเฟดปลายปีอยู่ที่ 4.25-4.5%
ดังนั้น KSS ประเมินตามเดิมคือ เชื่อเฟดเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม พ.ย. และ ธ.ค. อีกครั้งละ 0.25% มองภาพเศรษฐกิจ Soft-Landing เป็นกรณีฐาน ขณะที่เงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดเล็กน้อยซึ่งมาจากภาคบริการ ที่มีสัดส่วนราว70-80% ของ GDP สหรัฐ ยังบ่งชี้ภาพเป็นส่วนที่ช่วยประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ Soft Landing แข็งแกร่ง โดยรวมคาดหนุนภาวะการณ์ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ
โดยเชิงกลยุทธ์ แนะนำเน้นประเทศกลุ่ม EMs โดยเฉพาะอาเซียนที่ยัง Laggard ซื้อขาย Forward PER ที่ค่าเฉลี่ย vs DMs ที่ซื้อขายสูงกว่าระดับ + 1 S.D. ภายใต้ปัจจัยหนุนจีนกระตุ้นเศรษฐกิจจริงจังที่จะบวกระยะถัดไป รวมถึงสถานะโดยรวมเป็นกลาง ทำให้กระทบจำกัดความไม่แน่นอนการเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ หนุนเม็ดเงินภายนอกและในขับเคลื่อน SET เดินหน้าสู่เป้าหมายในปี 2567 ที่ 1,540 จุด แนะนำหุ้นและกองทุนในกลุ่มได้ประโยชน์จำกวงจรดอกเบี้ยขาลง ได้แก่
-ชิ้นส่วนฯเน้น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA (ราคาเป้าหมาย 110 บาท)
-เช่าซื้อเน้น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC (ราคาเป้าหมาย 58 บาท)
-หนี้สูง เน้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL (ราคาเป้าหมาย 84 บาท), บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT (ราคาเป้าหมาย 38 บาท)
-กลุ่ม High Yield REIT เน้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 280 บาท), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล หรือ LHHOTEL (ราคาเป้าหมาย 14.9 บาท), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล หรือ WHAIR (ราคาเป้าหมาย 8.6 บาท)
นอกจากนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้หนี้โลก เนื่องจากเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรบัตรขึ้นเพียงชั่วคราวและมีโอกาสกลับเป็นขาลงนับจากนี้แนะนำลงทุนในกองทุน KF-CSINCOM,KFSINCFX-A