ศปช. เตือนภาคใต้ 9 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนัก-ดินถล่ม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ว่า จากปริมาณฝนที่ยังตกหนักอาจส่งผลให้เกิดเหตุดินถล่มได้ในพื้นที่ 9 จังหวัด จึงขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังเหตุดินถล่ม และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ได้แก่ จ.ภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ ถลาง, จ.กระบี่ อ.เมืองกระบี่ เขาพนม เกาะลันตา, จ.ตรัง อ.ย่านตาขาว ปะเหลียน ห้วยยอด นาโยง, จ.สตูล อ.ควนโดน ควนกาหลง ละงู ทุ่งหว้า มะนัง, จ.พัทลุง อ.กงหรา ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ เขาชัยสน ตะโหมด ควนขนุน, จ.สงขลา อ.หาดใหญ่ สะบ้าย้อย จะนะ นาทวี รัตภูมิ สะเดา, จ.ปัตตานี อ.โคกโพธิ์ หนองจิก ปานาเระ มายอ ทุ่งยางแดง สายบุรี ยะรัง, จ.นราธิวาส อ.บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง สุคิริน สุไหงปาดี จะแนะ เจาะไอร้อง และ จ.ยะลา อ.เบตง ธารโต กาบัง บันนังสตา ยะหา รามัน กรงปินัง หากต้องการความช่วยเหลือโทรสายด่วนได้ที่ 1567 ตลอด 24 ชม.

นายจิรายุกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์น้ำหลากดินถล่มในพื้นที่ อ.เบตง และ อ.ธารโต จ.ยะลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ได้มอบเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย พร้อมเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและฟื้นฟูโดยเร็ว ทั้งเรื่องไฟฟ้า และถนนที่ได้รับความเสียหาย สามารถเปิดเส้นทางให้รถสัญจรได้แล้ว

สำหรับภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยา และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย จนถึง 12 ตุลาคม มีผู้ยื่นคำร้องในระบบ 56 จังหวัด 195,851 ครัวเรือน โดย ปภ.ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 7 ครั้ง และจ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ไปแล้ว 6 ครั้ง โอนเงินสำเร็จกว่า 17,352 ครัวเรือน จำนวนเงินทั้งสิ้น 86,888,000 บาท โดยการฟื้นฟูในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เป้าหมายบ้านเรือนประชาชน 1,367 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 1,327 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 40 ครัวเรือน ด้านการดำเนินการฟื้นฟูในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เฟส 2 เป้าหมายบ้านเรือนประชาชน 819 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 660 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 159 ครัวเรือน การจัดการขยะในพื้นที่ ประมาณการขยะทั้งสิ้น 70,000 ตัน ดำเนินการทิ้งแล้วทั้งสิ้น 67,617 ตัน

สำหรับ จ.เชียงใหม่ ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติทั้งในตัวเมือง และอำเภอในพื้นที่ท้ายน้ำ ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ ลดเหลือ 13 แห่ง มีผู้พักพิงอาศัย รวม 38 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ที่อยู่ระหว่างรอลูกหลานฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนให้พร้อมเข้าอยู่อาศัยก่อน ทั้งนี้ การดำเนินการหลังจากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูล้างทำความสะอาดบ้านเมืองอย่างเต็มกำลังในทั่วทุกพื้นที่ ส่วน จ.ลำพูน ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ทั้ง 7 ตำบลรวม 81 ตัวส่งผลให้ระดับน้ำลดลงในหลายพื้นที่