MEDEZE แย้มรายได้ปีนี้โต 25% กางแผนรุกธุรกิจเซลล์รากผมต้นปีหน้า

MEDEZE แย้มรายได้ปี 67 เติบโต 25% รุกขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม พร้อมรับรู้รายได้ไตรมาส 1/68 ฟากระบบการจัดเก็บเซลล์จ่อนำเข้ากลางปี 69 หนุนกำลังผลิต-ลดต้นทุนบริษัทสร้างการเติบโตแกร่ง


นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายของบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า ราคาหุ้น MEDEZE เปิดทำการซื้อขายวันแรกที่ 13.30 บาท ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 47.78% จากราคาจองซื้อที่ 9 บาท ซึ่งเป็นการได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากความเป็นผู้นำธุรกิจ พื้นฐานการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และอุตสาหกรรมอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น รวมถึงแผนขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ ช่วยขยายฐานกำไร สร้างโอกาสเติบโตในอนาคต

ขณะที่ นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม หรือ Hair Follicle Cell Bank ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม และหนังศีรษะ ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย

รวมไปถึงการลงทุนติดตั้ง ระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ หรือ (Robotic Cell Culture System) ซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้กระบวนจัดเก็บมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดความผิดพลาดของบุคคล และลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ยกระดับความน่าเชื่อถือทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น

“วันนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ MEDEZE ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานหนักมาโดยตลอด และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับ MEDEZE ซึ่งบริษัทฯเองก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และในฐานะผู้บริหารจะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีความโดดเด่น เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพ และสร้างการเติบโตในอนาคต รวมถึงการตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ด้วยศักยภาพในการให้บริการในระดับสากล” นายแพทย์วีรพลกล่าว

ทั้งนี้ จุดแข็งของ MEDEZE ในธุรกิจ คือ การที่บริษัทมีเครือข่าย แพทย์และโรงพยาบาลจำนวนมาก รวมทั้งในวันนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจสู่ระดับเอเชียและเชื่อว่ารายได้ของบริษัทภายหลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเติบโต 25% ด้วยความมั่นคงของบริษัทที่มีเพิ่มมากขึ้น และการยอมจากรับลูกค้า รวมถึงพันธมิตรที่ให้ความเชื่อมั่นต่อบริษัทจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมียอดขายที่เติบโต

ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจบริษัทในปี 67 คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้เหมือนที่ผ่านมา แต่สิ่งที่จะเป็นตัวสนับสนุนสำคัญคือการที่บริษัทเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ในปี 68 ธุรกิจที่บริษัทจะดำเนินต่อไปนั่นคือ ธุรกิจของเซลล์รากผม โดยในปัจจุบันได้พูดคุยกับคลินิกพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว และธุรกิจนี้บริษัทจะการดำเนินธุรกิจแบบ Business-to-Business (B2B) ซึ่งโอกาสในการเติบโตในธุรกิจ บริษัทมองว่ากลุ่มบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับผลอยู่ช่วงระหว่างอายุ 30-70 ปี โดยมีประมาณ 30 ล้านคน และจะพบคนที่มีปัญหาเรื่องผมจะตกอยู่ที่ 1 ต่อ 4 คน ซึ่งมองว่านี่คือกลุ่มเป้าหมายของบริการปลูกเซลล์รากผม และบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจปลูกเซลล์รากผมช่วงเดือนมกราคม ปี 68 รวมทั้งในปีถัดไปอาจมีบริการเพิ่มเติมที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยที่บริษัทมีการวิจัยและพัฒนา พร้อมการเข้าจดสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

ขณะที่ บริษัทยังมีแผนการติดตั้ง ระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ้นยนต์ (Robotic Cell Culture System) เข้ามาใช้เพื่อช่วยลดอัตราการปนเปื้อน เพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะเลี้ยงเซลล์ รวมถึงการลดต้นทุน ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและจัดเก็บของบริษัทอีกด้วย

อีกทั้งได้มีการพูดคุยกับทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  กระทรวงสาธารณสุข ในช่วงระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ในการอนุมัติลักษณะการสร้างห้องแลปที่ใช้เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เหลือคือการสั่งซื้อเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น โดยคาดการณ์ว่าจะนำเข้ามาใช้ได้ในช่วงกลางปี 69

“อย่างไรก็ตามทิศทางการเติบโตระหว่างปี 67-68 นั้น หากเราย้อนกลับไปดูในช่วงระยะเวลา 3 ปีย้อนหลังจะพบว่าบริษัทมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 25% ขณะที่ หากโฟกัสเฉพาะธุรกิจจัดเก็บสเต็มเซลล์เนื้อเยื่อไขมันและเนื้อเยื่อจากสายสะดือจะเติบโตอยู่ที่ 30% โดยหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดรับรู้เกี่ยวกับโมเดลธุรกิจของบริษัทอาจทำให้ธุรกิจจัดเก็บสเต็มเซลล์เนื้อเยื่อไขมันเติบโตได้ต่อเนื่อง

ส่วนแผนการไปเปิดธุรกิจในต่างประเทศบริษัทมีความพร้อมในด้านต่างๆ ที่จะขยายธุรกิจ ซึ่งคาดการณ์ว่าแผนการเปิดสาขาในต่างประเทศจะสามารถบอกรายละเอียดได้ใน 2 ไตรมาสข้างหน้า” นายแพทย์วีรพล กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button