โพลล์ชี้! ประชาชนมะกันหนุน “แฮร์ริส” มากกว่า “ทรัมป์” คะแนนเสียง 45% ต่อ 42%

โพลล์รอยเตอร์-อิปซอส ระบุ ผลตอบแบบสอบถามชาวอเมริกัน ยังคงเทใจให้ “กมลา แฮร์ริส” นำ “โดนัลด์ ทรัมป์” คะแนนเสียง 45% ต่อ 42% ถึงแม้ แฮร์ริส ยังอ่อนเรื่องเศรษฐกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (16 ต.ค.67) สำนักข่าว “รอยเตอร์ส” รายงานผลโพลล์สำรวจล่าสุดจากรอยเตอร์ส (Reuters) และ อิปซอส (Ipsos) ระบุว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ยังคงได้รับคะแนนนิยมนำ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน อยู่ที่ 45% ต่อ 42%  ทิ้งห่างกันประมาณ 3% สำหรับศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.67 นี้

อย่างไรก็ดี  คะแนนระหว่าง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ยังไม่มีความแตกต่างผลโพลล์สำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่การสำรวจครั้งล่าสุดที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค.67 ที่ผ่านมา บ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงฝั่งพรรคเดโมแครต มีความตื่นเต้นกับการเลือกตั้งปีนี้มากกว่าครั้งที่การเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.ปี 63 ซึ่ง โจ ไบเดน เป็นฝ่ายเอาชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ไปได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันระบุว่า 78% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนแล้ว ยืนยันว่าจะไปลงคะแนนเสียงอย่างแน่นอน โดยแบ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 86% และผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 81% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับโพลล์สำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ในช่วงเวลาใกล้เลือกตั้งปี 63 ระหว่างวันที่ 23-27 ต.ค.63 ซึ่งมีผู้ยืนยันว่าจะไปใช้สิทธิแน่นอนแค่เพียง 74% โดยแบ่งเป็น 74% จากผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต และเป็น 79% จากผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ทว่าผลโพลล์ครั้งนี้มีค่าความคลาดเคลื่อนประมาณ 4%

โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งเนื่องจากมีภาพลักษณ์ว่าเก่งด้านเศรษฐกิจกว่า แฮร์ริส หลังจากสหรัฐฯต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงมาหลายปีในยุคที่ โจ ไบเดน เป็นผู้นำ และถึงแม้ว่าสถานการณ์เงินเฟ้อ เริ่มมีการคลี่คลายลงบ้างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ตาม แต่จากผลโพลล์สำรวจล่าสุด มีการตั้งคำถามว่าใครจะรับมือกับปัญหาลัทธิสุดโต่งทางการเมืองและภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยของสหรัฐฯได้ดีกว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้คะแนน แฮร์ริส นำ ทรัมป์ อยู่ถึง 5% จากคะแนน 43% ต่อ 38% ส่วนในด้านนโยบายสาธารณสุข แฮร์ริส ก็สามารถทำคะแนนทิ้งห่าง ทรัมป์ อยู่ที่  14%

นอกจากนี้ เมื่อถามว่าใครจะบริหารประเทศด้าน “เศรษฐกิจ การว่างงาน และการจ้างงาน” ได้ดีกว่ากัน  โพลล์สำรวจระบุว่า ทรัมป์ นำหน้า แฮร์ริส อยู่ 5 % จากคะแนน 45% ต่อ 40% ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 26% ที่เลือกเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาสำคัญและใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถามชี้ว่า 23% มองว่าลัทธิสุดโต่งทางการเมืองเป็นปัญหาหลักและมีเพียง 3% เท่านั้นกังวลในเรื่องสาธารณสุข

ด้วยความได้เปรียบของทรัมป์ในด้านเศรษฐกิจ เริ่มมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ทรัมป์ นำ แฮร์ริส อยู่ถึง 5% ซึ่งมากกว่าผลสำรวจเมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ที่เคยนำเพียง 2% เท่านั้น และถึงแม้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันจะตั้งตารอคอยการไปลงคะแนน แต่ไม่ว่าจะทั้ง แฮร์ริส และ ทรัมป์ ต่างก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจคนส่วนใหญ่ได้ เพราะโพลล์พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจมีเพียงแค่ 46% เท่านั้นที่มีความเห็นในด้านบวกต่อ แฮร์ริส ขณะที่ ทรัมป์ ได้ไป 42% เท่านั้น

สำหรับ โพลล์สำรวจจาก รอยเตอร์ส และ อิปซอส เป็นการสำรวจทางออนไลน์กับชาวอเมริกัน 938 คนทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งแล้ว 807 คน และในกลุ่มนี้มี 769 คนที่คาดว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งจริง ๆ เนื่องจากดูเฉพาะกลุ่ม 769 คนแล้วพบว่า แฮร์ริส ยังนำทรัมป์อยู่ 3%  ด้วยคะแนนที่ได้ 47% ต่อ 44%

Back to top button