โบรกชี้เลือกตั้งสหรัฐฯ หนุน SET โค้งสุดท้ายทดสอบ 1,520 จุด ชู AWC-GPSC-WHA ท็อปพิก
โบรกคาดการณ์เลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย.67 หวังเชิงบวกต่อการเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ลุ้นดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ทดสอบ 1,520 จุด ชู 3 หุ้นท็อปพิก AWC-GPSC-WHA รับดอกเบี้ยขาลงและเศรษฐกิจฟื้นตัว
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์เลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย.67 ที่กำลังจะมาถึง น่าจะสร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อการเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะสามารถนำพาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านพ้น ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ผสานกับบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายช่วงปลายปี จึงมีโอกาสสูงที่จะเกิด Election Rally
โดยประเมินภาพรวม SET Index มีโอกาสเร่งตัวในช่วงปลายปีสู่เป้าหมายดัชนี ณ สิ้นปีที่ระดับ 1,520 จุด จากแรงหนุนการตอบรับเชิงบวกหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นไปในทิศทางใด แต่ในเชิงเปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยจะตอบรับเชิงบวกมากกว่า หากชัยชนะเป็นของกมลา แฮร์ริส ที่มีนโยบายด้านการค้าและต่างประเทศไม่แข็งกร้าวเท่าโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม จากสถิติในอดีตที่ผ่านมา ปัจจัยที่มีน้ำหนักในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยที่สำคัญที่สุดในปีเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ยังจะเป็นปัจจัยที่เป็นกระแสหลักของการลงทุนในปีนั้นๆ ซึ่งในปีนี้คือ วงจรดอกเบี้ยขาลง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้น จึงประเมินกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย ท่องเที่ยว ธนาคาร วัสดุก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และ นิคม อุตสาหกรรม เป็นต้น
ดังนั้น ทางฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกหุ้น Top Picks ทั้งหมด 3 หุ้น คือ AWC, GPSC และ WHA ดังนี้
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC คาดการณ์กำไรในปี 67-73 เติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ย 21% ต่อปี ขณะที่ยังมี Upside ต่อประมาณการในระยะยาว หากลงทุนใน Entertainment Complex และการปรับลดดอกเบี้ยฯ ของ ธปท. ทั้งนี้ทุกๆ 0.10% ที่ Effective Interest Expense ปรับลงหนุนต่อประมาณการกำไร AWC เพิ่มขึ้น 2.3%
ขณะที่ Earnings Momentum เด่น โดยคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 340 ล้านบาท ขยายตัว 170% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากอัตราห้องพัก (RevPAR) คาดเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (สูงกว่าช่วงก่อนโควิด 24%) จากโรงแรมกลุ่ม MICE โรงแรมในกรุงเทพฯ และรีสอร์ทหรู และขยายตัว 67% จากไตรมาสก่อนหน้าจากกลุ่มสันทนาการ ด้านกำไรไตรมาส 4/67 คาดการณ์เติบโตทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้าจากการเข้าช่วงไฮซีซั่น โดยให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อยู่ที่ 4.20 บาท
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC คาดการณ์กำไรปี 67 เติบโตแรงอยู่ที่ 49% จากราคาก๊าซลดลงและส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี และในปี 68 คาดการณ์กำไรเติบโตอีก 51% หนุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ไต้หวัน
แรงขับเคลื่อนราคาหุ้นในระยะนี้มาจากผลประกอบการไตรมาส 3/67 คาดการณ์จะเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจาก high season ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โดยให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อยู่ที่ 53.00 บาท
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากกระแส Relocation จากการกีดกัดการค้าสหรัฐอเมริกากับจีนจะมีอยู่แน่นอน นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐบาลที่ต้องการดึงดูดการลงทุน เพื่อสร้าง New-S Curve ในธุรกิจเป้าหมาย เช่น กลุ่มเทคโนโลยี Datacenter เป็นต้น
ด้านแนวโน้มกำไรบริษัทฯ อิง Bloomberg Consensus โดยในปี 67 กำไรขยายตัว 11% และในปี 68 กำไรขยายตัว 13% ทำนิวไฮต่อเนื่อง โดยแรงขับเคลื่อนกำไรมาจากยอดขายที่ดินที่เติบโต และราคาที่ดินที่ยังสามารถปรับสูงขึ้นท่ามกลางอุปสงค์ที่ดินที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าอุปทานที่ดินของนิคมอุตสาหกรรม โดยให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.25 บาท