“บิทคอยน์” พุ่ง 13% ในรอบ 1 สัปดาห์ รับ ความหวัง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง
“บิทคอยน์” พุ่ง 13% ในรอบ 1 สัปดาห์ รับ ความหวัง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ หนุน ศูนย์กลางคริปโตเคอร์เรนซีโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 ต.ค.67) สำนักข่าว “บลูมเบิร์ก” รายงานว่า การพุ่งขึ้น 13% ของราคาบิทคอยน์ในรอบสัปดาห์อยู่ที่ 6.7 หมื่นดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นถึงกลุ่มนักลงทุนวงการคริปโตเคอร์เรนซี คาดหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากพรรครีพับลิกัน จะคว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 5 พ.ย.67
ทั้งนี้ราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นประมาณ 13% ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา แซงหน้าดัชนีหุ้นโลกและทองคำ ซึ่งทาง สแตน ดรักเคนมิล มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ระบุว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ว่า ตลาดคาดหวังที่จะให้ทรัมป์เป็นฝ่ายคว้าชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากนี้ตลาดสหรัฐฯในช่วง 12 วันที่ผ่านมา ดูมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าทรัมป์จะชนะเลือกตั้ง โดยจะเห็นได้จากหุ้นกลุ่มธนาคารและสกุลเงินคริปโตฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยประกาศให้คำมั่นว่า เขาจะทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางของคริปโตเคอร์เรนซีของโลก
ด้าน เมลเทม เดมิเรอร์ ผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนของครูซิเบิล แคปิทัล (Crucible Capital) เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก (Bloomberg Television) ว่า การที่คริปโตเคอร์เรนซี กลายเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้บิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งความสนใจดังกล่าวได้เปลี่ยนไปเป็นความเชื่อมั่น และอย่างที่เราทราบความเชื่อมั่นก็แปรเปลี่ยนไปเป็นกระแสสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี การสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีของทรัมป์ ทำให้บิทคอยน์ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่เรียกว่า “Trump trade” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเดิมพันที่คาดว่า ทรัมป์จะกลับมาทำงานที่ทำงานทำเนียบข่าวอีกครั้ง
อนึ่ง กระแสเงินไหลเข้าสุทธิสู่กลุ่ม ETF บิทคอยน์ของสหรัฐฯ จำนวน 12 แห่ง ทะยานสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.67 ซึ่งราคาบิทคอยน์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ประมาณ 6.7 หมื่นดอลลาร์ เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (17 ต.ค.67) ในสิงคโปร์ เมื่อเทียบกับสถิติสูงสุดในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.3 หมื่นดอลลาร์