JMT แย้มปีหน้าเตรียมซื้อ “หนี้เสีย” บริหารก้อนใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 ต.ค.67) จากกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ผลการประชุม กนง.ในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 คณะกรรมการมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567

ด้านนายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยผ่าน “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าทิศทางของดอกเบี้ยขาลงจะส่งผลบวกต่อบริษัทในแง่ของระยะยาว ที่ส่งผลให้ต้นทุนในการซื้อหนี้รอบใหม่มีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำลง

“การปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. ถือว่าไม่ได้เซอร์ไพรส์มากนัก เนื่องจากตนคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าคงจะลด แต่ตลาดอาจจะเซอร์ไพรส์ในแง่ว่าประกาศมาเร็วกว่ากำหนด เพราะมีการคาดการณ์ไว้ว่าคงประกาศในระยะเดือนพฤศจิกายน” นายสุทธิรักษ์ กล่าว

นายสุทธิรักษ์ กล่าวอีกว่า ยังคงเป้าหมายรายได้ที่เหมือนเดิมไว้ก่อน เพราะอยากจะดูทิศทางตลาดให้ชัดเจนก่อน ประกอบกับคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปีนี้อาจเติบโตต่ำกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ลูกค้าต้องเจอสภาวะเศรษฐกิจซบเซาในช่วงต้นปี ส่งผลให้กำลังซื้อของลูกค้าค่อนข้างจำกัด จึงเป็นผ่อนไปเรื่อย ๆ การปิดบัญชีไม่ได้มีอัตราเร่งเหมือนเดิม และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เอาไว้ด้วยในปีนี้

ส่วนภาพรวมครึ่งหลังของปี 2567 น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกจากสัญญาณการบริหารจัดการของรัฐบาลทำให้บริษัททยอยดีขึ้น พร้อมกับการบริหารจัดการหนี้เสียจะต้องรอปิดปีก่อน และจะแจ้งอีกครั้งว่าปีหน้าคาดการณ์อย่างไร แต่เบื้องต้นคิดว่าปีหน้าปริมาณหนี้เสีย (NPL) เข้าสู่ตลาดน่าจะมากกว่าปีนี้