KKP ตั้งสำรองลด-ค่าฟีพุ่ง ดันกำไร Q3 แตะ 1.3 พันล้านบาท
KKP รายงานงบไตรมาส 3/67 กำไรแตะ 1.3 พันล้านบาท โต 2% จากปีก่อนมีกำไร 1.2 พันล้านบาท รับรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น และผลมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 59.4%
สำหรับ KKP รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,304.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.88% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,280.51 ล้านบาท เป็นผลมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมีจำนวน 681 ล้านบาท ปรับลดลงร้อยละ 59.4 จากการขายรถยึด (credit cost) คิดเป็นอัตราร้อยละ 1.99 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ยปรับลดลง จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 3.32 ตามการบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงคุณภาพที่ดีขึ้นของสินเชื่อปล่อยใหม่ประกอบกับการตั้งสำรองที่ลดลงตามการชะลอตัวของปริมาณสินเชื่อโดยรวม
อีกทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 1,668 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 14.5% โดยรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิปรับเพิ่มขึ้น 10.9 ตามภาวะตลาดทุนที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลใหร้ายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงรายได้จากธุรกิจ Wealth Management ปรับเพิ่มขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียม จากธุรกิจจัดการกองทุนยังสามารถทำได้ในระดับที่ดีตามมูลค่าสินทรัพย์ ภายใต้การจัดการที่ปรับเพิ่มขึ้น
ขณะที่รายได้ค่านายหน้าประกันยังคงปรับลดลงตามการชะลอตัวของสินเชื่อปล่อยใหม่ ทั้งนี้ บล.เกียรตินาคินภัทร ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เป็นอันดับที่ 1 โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 20.67
สำหรับผลประกอบงวด 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,579.44 ล้านบาท ลดลง 25.02% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4,773.66 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้มิใช่ดอกเบี้ยลดลง