“จิตติ” ชี้ปีนี้ “ราคาทอง”อาจทะลุแตะ 45,000 บ. หลังมีปัจจัยหนุน “นิวไฮ” 2 วันติด
นายกฯค้าทอง ชี้ปีนี้ลุ้นแตะ 45,000 บาท หลังมีปัจจัยหนุน “นิวไฮ” 2 วันติด ส่วนแนวโน้มแตะ 50,000 บาท ยังไปไม่ถึง พร้อมแนะจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐ-กำลังซื้อในประเทศช่วงปลายปีทำราคาผันผวนแรง
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำจะยังอยู่ในภาวะผันผวนสูงและมีโอกาสปรับราคาสูงขึ้นได้อีก ปัจจัยหลักๆ ได้แก่ 1.ประเทศต่างๆ ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งสหรัฐ ยุโรป จีน รวมถึงประเทศไทย ที่จะมีผลต่อสกุลเงินโลกและค่าเงินบาท ซึ่งราคาซื้อขายทองคำในประเทศ ค่าเงินบาทที่เปลี่ยนแปลงทุก 10 สตางค์จะมีผลต่อราคาทองคำ 120 บาท
โดยในวันที่ 7 พฤศจิกายนต้องติดตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% หรือชะลอไว้ก่อน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 2.สงครามในตะวันออกกลาง ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ คาบสมุทรเกาหลีระอุ และผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนเพิ่มความสำคัญต่อสัดส่วนการลงทุนทองคำสูงกว่าในอดีต
3.นโยบายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง หลายฝ่ายมองด้านต่างประเทศก็จะสงบลง แต่ในประเทศอาจมีเรื่องวุ่นๆ หาก กมลา แฮร์ริส ชนะเลือกตั้งก็จะตรงกันข้าม และ 4.กำลังซื้อในประเทศ ถือว่าอยู่ในภาวะแย่ลงมาก ทำสถิติแย่งที่สุดก็ว่าได้ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในไทยปีนี้ ถือได้ว่ารุนแรงในหลายพื้นที่ แต่ในหลายพื้นที่ก็ยังกังวลว่าจะเจอน้ำท่วมฉับพลันในอนาคตหรือไม่ ส่งผลให้คนลดการซื้อทองเพื่อการออม และเงินใช้จ่ายเตรียมไว้กับค่าครองชีพและเงินเพื่ออนาคตแทน สะท้อนได้จากหลังมีเหตุการณ์น้ำท่วมตั้งแต่เข้าไตรมาสสาม กำลังซื้อทองคำ หายไปหมด
ส่วนไตรมาส4/67 แม้จะเข้าเทศกาลปีใหม่ เดิมเคยมียอดซื้อสูงๆ จากองค์กรเอกชน เพื่อแจกจ่ายหรือเป็นโบนัสให้กับพนักงานหรือขอบคุณพันธมิตรคู่ค้าปีนี้น่าจะเหลือไม่ถึง 1 ใน 3 ตอนนี้ยังไม่เห็นวี่แวว ว่ากำลังซื้อของร้านค้าทองทั่วไป จะกลับมาฟื้นเหมือนในอดีต ดังนั้น เพื่อเป็นการประคอการค้าขาย ร้านค้าทองคำต้องปรับตัว เช่น ผลิตสินค้าที่มีน้ำหนักต่อชิ้นลดลง อย่างที่ร้านจินฮั้วเฮงของตน ได้ออกทองแผ่นน้ำหนัก 0.3 กรัม จำหน่ายราคา 1 พันกว่าบาท ถือว่าเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดที่เคยทำมา
“หากค่าเงินบาทไม่แข็งค่า เทียบราคาทองคำเกิน 2,700 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำในไทยจะถึง 45,000 บาท (1บาททองคำ) แล้ว ล่าสุดทำนิวไฮ 2 วันซ้อน (18-19 ตุลาคม) หลังปีนี้ทำนิวไฮแตะ 42,150 บาทในเดือนกรกฎาคม พอตุลาคมก็ทำนิวไฮอีก หลายฝ่ายยังมองว่าราคาทองคำจะถึง 5 หมื่นบาท โอกาสจะลงไปเห็นกว่า 3 หมื่นบาท คงยากแล้ว ก็ต้องมาลุ้นปีนี้จะทำราคานิวโฮอีกกี่ครั้ง” นายจิตติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ราคาทองคำเมื่อวันที่ 18 ต.ค.มีการเคลื่อนไหว 8 ครั้ง รวมสูงขึ้น 350 บาท และปิดตลาดทำราคาสูงสุด โดยทองแท่งรับซื้อ 42,350 บาท ขายออก 42,450 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 41,583.88 บาท ขายออก 42,950 บาท อิงราคาทองคำโลก 2,712.50 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ค่าเงินบาท 33.14 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ขณะที่วันที่ 19 ต.ค.67 ราคาทองขึ้นอีก 100 บาท สูงสุดอีกครั้ง โดยทองแท่งรับซื้อ 42,450 บาท ขายออก 42,550 บาท,ทองรูปพรรณรับซื้อ 41,690 บาท ขายออก 43,050 บาท อิงราคาทองคำโลก 2,722 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และ ค่าเงินบาท 33.09 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ด้านนายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ เดือนตุลาคม 2567 ปรับขึ้นเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากระดับ 68.97 จุด อยู่ที่ 69.70 เพิ่ม 0.73 จุด หรือ คิดเป็น 1.06% ปัจจัยได้แก่ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แรงซื้อเก็งกำไร การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
โดยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะสามเดือนไตรมาส 4 /67 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 จากระดับ 68.50 จุด อยู่ที่ 69.08 จุด เพิ่ม 0.58 จุด หรือ คิดเป็น 0.84% ปัจจัยได้แก่ เงินทุนไหลออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย การอ่อนค่าของเงินบาท ทิศทางราคาน้ำมัน และแรงซื้อเก็งกำไรของกองทุน