“เสี่ย ปป” ส่องงบฯ “ดิ ไอคอน” พบ “Inventory Turnover” สูงผิดปกติในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน
“เสี่ย ปป” ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เปิดงบการเงิน “บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด” ไขข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่ หลังพบตัวเลข Inventory Turnover สูงผิดปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (21 ต.ค. 67) ว่า ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เสี่ย ปป” ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อกล่าวถึงงบการเงินของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้
โดย ดร.พงศ์ธร ระบุว่า ได้ตรวจสอบงบการเงิน เพื่อดูว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นธุรกิจขายตรงหรือธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เพราะหากเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งงบการเงินของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ต้องดูที่อัตราส่วนหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover) แปลว่าสมมุติขายของ ต้องมีการสต๊อกของ ถ้าขายของดีมาก ก็ต้องมีการสต๊อกของหลายครั้ง เท่ากับว่า อัตราส่วนหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ ถ้าทำได้หลายรอบ แสดงว่าขายดีมาก ก็เลยต้องมีการรีสต๊อกหลายรอบ ซึ่งปกติธุรกิจประเภทขายตรงจะมี Inventory Turnover ประมาณ 5-10 เท่า ยกตัวอย่างเช่น บริษัท กิฟฟารีน ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 70 ปีแล้ว มี Inventory Turnover อยู่ที่ประมาณ 5 เท่า
แต่เมื่อไปดูของ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จะเห็นว่าปี 2564 ที่มียอดขายสูงสุด 4,900 ล้าน มี Inventory Turnover ถึง 489 กว่าเท่า แปลว่าบริษัทต้องมีการรีสต๊อกสินค้าเกือบทุกวัน ซึ่งจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีการรีสต๊อกสินค้าวันละหลายครั้ง นั่นแปลว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ไม่ได้มีรายได้จากการขายสินค้า แต่มีรายได้มาจากทางอื่น เช่น การขายเมมเบอร์ การขายบัตรอีเวนต์ ที่ไม่ใช่การขายสินค้า ซึ่งประเด็นนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ยื่นเรื่องไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตั้งแต่ปี 2561
“ตอนนี้หลักฐานค่อนข้างเยอะ อยากให้ดูเคสนี้เป็นตัวอย่างไม่ให้ถูกหลอก เพราะงบการเงินไม่สามารถหลอกได้ ดูงบการเงินก็จะรู้ได้ว่าเป็นบริษัทขายของ หรือขายเมมเบอร์กันแน่ เพราะถ้าเป็นบริษัทขายของจะต้องมี Inventory Turnover ในระดับที่เหมาะสม และเป็นเหตุเป็นผล” ดร.พงศ์ธร กล่าวทิ้งท้าย