“ประเสริฐ” โชว์วิสัยทัศน์ AI เปลี่ยนโฉม “3 เสาหลัก” ไทย ในงาน “Battle Strategy”

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” โชว์วิสัยทัศน์ AI เปลี่ยนโฉม 3 เสาหลัก “ภาคการผลิต–เกษตร–สุขภาพ” ในงานสัมมนา Battle Strategy “เศรษฐกิจยุค AI โอกาสของไทยและความเสี่ยง The AI Economy: Opportunity and Threat for Thailand” ที่ หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ร่วมกับ เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และพันธมิตร จัดขึ้น


วันนี้ (25 ต.ค.67) หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ผนึกกำลังกับ บริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน)  หรือ เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และพันธมิตรชั้นนำ จัดงานสัมมนาเชิงกลยุทธ์ Battle Strategy ภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจยุค AI โอกาสของไทยและความเสี่ยง The AI Economy: Opportunity and Threat for Thailand” ที่จัดขึ้น ณ ห้อง Thai Chitlada Grand Ballroom โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมแสดงปาฐกถาพิเศษ  “แนวรบประเทศไทยยุค AI “New Business to New Economy”  วิสัยทัศน์จากผู้นำองค์กรชั้นนำ”

นายประเสริฐ กล่าวว่า  “งานสัมมนานี้เป็นเวทีสำคัญยิ่งในการระดมสมองจากผู้นำหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางและวางรากฐานอันมั่นคงให้กับประเทศไทย  ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งยวดต่อเศรษฐกิจและสังคมโลก โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เทคโนโลยี AI ได้เข้ามา Disrupt ทุกอุตสาหกรรมธุรกิจ และวิถีชีวิตของผู้คน การปรับตัวให้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง”

ทั้งนี้ AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 ภาคส่วนหลัก  ได้แก่  1.ภาคการผลิต การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในภาคการผลิต  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ  จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  ลดต้นทุน  และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 2.ภาคการดูแลสุขภาพ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ  ซึ่งนำมาซึ่งความท้าทายด้านการดูแลสุขภาพ AI จะมีบทบาผสำคัญในการยกระดับระบบการดูแลสุขภาพของประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการวินิจฉัยโรคด้วย AI การแพทย์ทางไกล และการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ แม่นยำ และรวดเร็ว  ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และ 3.ภาคการเกษตร ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีประชากรจำนวนมากประกอบอาชีพเกษตรกร AI จะเข้ามาช่วยพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศ เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร  ด้วยเทคโนโลยีการเกษตรแม่นยำ  การตรวจสอบพืชผลด้วย AI และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

ด้านนายชาญชัย สงวนวงศ์ ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ระบุว่า การจัดเวทีสัมมนานี้ ถือเป็นการจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ มุมมองด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในปีนี้ประเทศไทยและทั่วโลกเผชิญกับความท้าทาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของโลกอย่างรวดเร็ว และกำลังกลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม การเงินการลงทุน การแพทย์สาธารณสุข หรือแม้กระทั่งการดำเนินชีวิตประจำวัน AI ได้เริ่มเข้ามามีบทบาท และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับความสะดวกสบาย และสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

สำหรับประเทศไทยการมาถึงของยุค AI นับเป็นทั้งโอกาสอันมหาศาลและความท้าทายที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ โอกาสในการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ และแก้ไขปัญหาสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เท่าทันต่อวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

อีกทั้งงานสัมมนานี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้บริหาร นักธุรกิจ และผู้สนใจ ที่จะได้รับความรู้เชิงลึก ความเข้าใจ และมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับ AI รวมถึงโอกาสและความท้าทายต่างๆ ที่ประเทศไทยต้องเผชิญในยุคเศรษฐกิจ AI

Back to top button