SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตาตัวเลขส่งออกไทย ก.ย.- เศรษฐกิจสหรัฐ

“บล.กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” หลังบอนด์ยีลด์ย่อตัว แนะติดตามยอดส่งออก-นำเข้าไทยเดือนก.ย. พ่วงรายงานงบไตรมาส 3/67 และทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ โบรกแนะหุ้นเด่น ADVANC-AOT-GULF พร้อมมองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวแนวรับ 1,444 - 1,432 จุด แนวต้าน 1,487 - 1,500 จุด


“สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (28 ต.ค. – 1 พ.ย.67) โดยเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งประเมินตลาดหุ้นไทย “ฟื้นตัว”  ให้แนวรับที่ 1,444 – 1,432 จุด แนวต้าน 1,487 – 1,500 จุด ขณะที่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ที่แนะนำให้นักลงทุนติดตาม ได้แก่

วันที่ 28 ต.ค. ติดตามยอดส่งออกและนำเข้าประจำเดือน ก.ย. 67 ซึ่งตลาดคาดการณ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงเมื่อเทียบกับยอดการส่งออกในเดือน ส.ค. 67 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.0%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้ง วันที่ 29 ต.ค.67 29 อีกปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.), รายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์ รวมถึงติดตามการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 กลุ่ม Real Sector ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ADVANC จะมีกำไรเด่นกว่าปกติ

ส่วนปัจจัย “ต่างประเทศ” ที่น่าติดตามในวันที่ 30 ต.ค.67 คือ การรายงาน ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร (ADP) สหรัฐฯ ประจำเดือน ต.ค. 67 ซึ่งคาดการณ์อยู่ที่ 9.9 หมื่นตำแหน่ง ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับยอดการจ้างงานประจำเดือน ก.ย.67 อยู่ที่ 1.43 แสนตำแหน่ง อีกทั้ง ในวันเดียวกันจะมีการรายงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 3/67 ครั้งที่ 2 ซึ่งคาดการณ์เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า เท่ารายงานรอบแรก

ถัดมาวันที่ 1 พ.ย. 67 แนะนำนักลงทุนติดตามรายงาน PMI ภาคผลิตสหรัฐ (ISM) ประจำเดือน ต.ค. 67 คาดการณ์เพิ่มขึ้น 47.6 จุด เมื่อเทียบกับการรายงานในเดือน ก.ย อยู่ที่ 47.2 จุด และติดตามรายงาน เงินเฟ้อ PCE พื้นฐานประจำเดือน ต.ค. คาดการณ์เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบระหว่างเดือน และปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ เมื่อเปรียบเทียบกับรายงานประจำเดือน ก.ย.67 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบระหว่างเดือน รวมถึงเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

รวมไปถึง จะมีการรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ประจำเดือน ต.ค. คาดการณ์อยู่ที่ 1.2 แสนตำแหน่ง เมื่อเปรียบเทียบกับยอดการจ้างงานในเดือน ก.ย. 67 อยู่ที่ 2.5 แสนตำแหน่ง ขณะที่ อัตราการว่างงานคาดการณ์อยู่ที่ 4.1% เท่าเดือนก่อน

วันที่ 31 ต.ค. ติดตามดัชนี PMI ซึ่งทางการจีนไม่มีคาดการณ์ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบรานงานประจำเดือน ก.ย ดัชนีอยู่ที่ 50 จุด ส่วน PMI นอกภาคผลิตไม่มีคาดการณ์ เช่นเดียวกัน ซึ่งหากปรียบกับรายงานก่อนหน้าอยู่ที่ 50.0 จุด ทั้งนี้วันที่ 1 ต.ค. ติดตามดัชนี PMI ภาคผลิต โดยสำนัก Caixin ผลสำรวจว่าดัชนีจะอยู่ที่ 49.3 จุด

ขณะที่ กลยุทธ์การลงทุน ภายหลังการประเมิน SET “ฟื้นตัว” แม้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พ.ย. 67แต่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (US Bond Yield) ที่เร่งมาอยู่ระดับสูงสุดใน 3 เดือน น่าจะสะท้อนความเสี่ยงกรณีคุณ Trump มีโอกาสชนะสูงขึ้นไปบ้างแล้ว ซึ่งคาดการณ์แรงหนุนจาก Bond Yield คลายลงตามภาคจ้างงานสหรัฐฯที่ชะลอผลจากพายุ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนบรรยากาศการลงทุน

โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองหุ้นเด่น ได้แก่ 1.) กลุ่มอิงดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ และ หนี้สูง High Yield, 2.) กลุ่ม Domestic ที่ได้ประโยชน์และทนทานความเสี่ยงเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมไปถึงรายงานกำไรในไตรมาส 3/67 อยู่ในทิศทางที่ดี อาทิ กลุ่มสื่อสาร, นิคมอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล และ ค้าปลีก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “หุ้นเด่น” ประจำสัปดาห์ ได้แก่

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC หลังคาดการณ์ทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/67 ออกมาในทิศทางที่ดีกว่าปกติ ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 300 บาท

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT คาดการณ์ว่าเป็นหุ้นที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากฤดูกาลปลายปีผนวกกับโครงการ Entertainment Complex เริ่มเดินหน้า ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 64.5 บาท

ส่วน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์เป็นหุ้นหลักในธีม Infra Tech ซึ่งเป็นเป้าหมายของเงินลงทุนภายในประเทศ (Domestic LT Fund) โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานอยู่ที่  68 บาท

นอกจากนี้ แนะนำนักลงทุนติดตามทิศทาง “ฟันด์โฟลว์” ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลเข้าตลาด (หุ้น+พันธบัตร) ภูมิภาค Asia ประมาณ 1,331 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ไทยเงินไหลออก -204.6 ล้านเหรียญฯ โดยขายหุ้น -82.9 ล้านเหรียญฯ ขาย พันธบัตร -121.7 ล้านเหรียญฯ ส่วนเงินบาทอ่อนค่าสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 33.8 +/-บาท

Back to top button