นายกฯ รับมอบ “สมุดปกขาว” เร่งสร้างรายได้ใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฯ แพทองธาร ร่วมประชุม กกร. รับมอบสมุดปกขาว พร้อมหารือแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าจับมือเอกชน หารายได้ใหม่เข้าประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3 สถาบัน (กกร.) นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ในฐานะประธาน กกร. และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย และนายสุธีร์ สธนสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงาน กกร. ซึ่งก่อนเริ่มหารือ นายสนั่นได้มอบสมุดปกขาว ซึ่งเป็นข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ที่จัดทำโดย กกร. ให้กับนายกรัฐมนตรี
โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ยินดีต้อนรับ กกร. เข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้อยากจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เพราะประเทศไทยประสบปัญหาศักยภาพการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนาน 10 ปี ที่ผลกระทบส่งถึงประชาชน หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น จึงอยากให้ภาครัฐ และเอกชนได้พูดคุยร่วมมือกัน ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ไม่ใช่เพียงปัญหาเดียว แต่ยังต้องหารายได้ใหม่เข้าประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้
“สิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้ก็มีเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ และมีความร่วมมือกับเอกชนจำนวนมากเพราะมองว่าเอกชนคือภาคสำคัญที่จะทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มและสนับสนุนประชาชนด้วยจึงอยากจะให้รัฐกับเอกชนทำงานร่วมกันเยอะขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจและโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชนซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก วันนี้รัฐบาลพร้อมที่จะซัพพอร์ตรับฟังจากภาคเอกชน เพื่อให้สามารถปรับให้เข้านโยบายของรัฐบาลต่อไป” นางสาวแพทองธาร กล่าว
ด้านนายสนั่น ซึ่งเป็นตัวแทนภาคเอกชน กล่าวว่า เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย และปัญหาหลากหลายมิติ กกร. จึงได้ระดมความคิดเห็นจากภาคธุรกิจในสาขาต่าง ๆ จัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการ ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว
โดยมีทั้งหมด 4 ประเด็น ได้แก่ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs การบริหารจัดการน้ำและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ระยะเร่งด่วน เสนอมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ลดต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งการควบคุมราคาสินค้าพื้นฐาน และบริการที่จำเป็น ตรึงราคาค่าไฟ น้ำมันดีเซล เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ และลดภาระประชาชน รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยเอกชนขอให้เป็นไปตามกลไกของคณะอนุกรรมการไตรภาคี
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควรแยกวิธีให้เหมาะสมและใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเป้ากระตุ้นไปยังกลุ่มเปราะบาง ถือเป็นสิ่งเร่งด่วนที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้ว ขณะที่ประชาชนกลุ่มที่ยังพอมีกำลังซื้อ สามารถดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะโครงการคูณสอง เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณมาก
“สำหรับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงสามารถออกมาตรการดึงการจับจ่ายใช้สอยให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเช่น มาตรการทางภาษี ที่รัฐไม่ต้องใช้งบประมาณเลย” นายสนั่น กล่าวทิ้งท้าย