คกก.วัคซีนฯ ไฟเขียวผลิตวัคซีน “ไข้หวัดใหญ่” ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงระดับอุตฯ
คกก.วัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบหลักการร่วมมือผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงระดับอุตสาหกรรม พร้อมหนุนผลิตวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ชนิด 9 สายพันธุ์ เพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ต.ค. 67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ สร้างความร่วมมือการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงในระดับอุตสาหกรรม เพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศและภูมิภาค ซึ่งการผลิตวัคซีนได้เองในประเทศ เตรียมความพร้อมต่อการรองรับการระบาดของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำได้ในอนาคต
ทั้งนี้ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องยกระดับเทคโนโลยีการผลิต และวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลด้วยเทคโนโลยี เซลล์เพาะเลี้ยง (Cell based technology) ซึ่งใช้เวลาในการผลิตน้อยกว่าการผลิตด้วยเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก แบบดั้งเดิมที่พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม ซึ่งการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่จากต่างประเทศ จะส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในการส่งเสริมศักยภาพและความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากมีความจำเป็นด้านงบประมาณเพิ่มเติม ได้มอบหมายให้ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ ประชุมได้เห็นชอบในหลักการการสนับสนุนความร่วมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (Human Papilloma Virus: HPV) ชนิด 9 สายพันธุ์ หลังเกิดสถานการณ์การขาดแคลนของวัคซีน HPV ไทยปรับรูปแบบความร่วมมือใหม่รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ จาก บริษัท INNOVAX ด้วยการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่าย ได้แก่ บริษัท INNOVAX, สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และ บริษัท โกลบอลไบโอเทค จำกัด
ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท GPO-MBP เริ่มถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการผลิตวัคซีน จนไปถึงการขึ้นทะเบียนวัคซีนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ภายในปี 2570