AGE เร่งปั้น ABM สู่เรือธง เดินเกมธุรกิจกรีน สร้างรายได้โตยั่งยืน

AGE โหวตผ่านฉลุย เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน  ABM มูลค่ารวม 379.74 ล้านบาท จ่อทำ Share Swap – Tender Offer ปลายไตรมาส 4/2567 นี้ ด้านผู้บริหาร “ปณิตา ควรสถาพร” เดินเกมรุกปรับโครงสร้างธุรกิจพลังงาน สู่ความยั่งยืน ประกาศเร่งต่อยอดธุรกิจกรีน หวังปั้น ABM เป็น Flagship สร้างรายได้ทางธุรกิจให้ AGE เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ต.ค. 67) น.ส.ปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่าจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ที่มีมติให้บริษัท AGE เข้าทำรายการซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM จำนวน 292,107,010 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.30 บาท พร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นทั่วไป หรือ Tender Offer จากผู้ถือหุ้นของ ABM

น.ส.ปณิตา กล่าวว่า กระบวนการชำระค่าตอบแทนการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ABM ทาง AGE จะชำค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนด้วยการแลกหุ้น ของหุ้นสามัญในบริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC จำนวน 81,860,400 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 24% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและชำระแล้ว และหุ้นสามัญในบริษัท กรีน อาร์ดีเอฟ จำกัด หรือ GRDF จำนวน 335,497 หรือคิดเป็นสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน แทนการชำระด้วยเงินสด โดยคาดว่า รายการทำ Share Swap และ Tender จะแล้วเสร็จภายในปลายไตรมาส 4/2567

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังมีมติอนุมัติเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ทุนทำดี จำกัด จำนวน 17,997 หุ้น หรือคิดเป็น ร้อยละ44.99 ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว ที่ราคา 62,230,500 บาท โดย บริษัท เอจีอี เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AGE จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยซื้อหุ้นดังกล่าวจากบริษัท แอลฟ่า จี เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ABM

“แผนการเข้าซื้อกิจการของ AGE ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานยั่งยืน โดย ABM ถือเป็นผู้นำในธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล และบริษัทฯ มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ ทาง AGE จะเป็นผู้ถือหุ้นใน ABM เป็นร้อยละ 51-70 และถือหุ้นใน ทุนทำดี ที่ร้อยละ 100 ขณะที่ ABM จะเป็นผู้ถือหุ้นใน QTC ที่ร้อยละ 24” น.ส.ปณิตา กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน AGE มี 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจถ่านหิน, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Diversified Investments โดยสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ ยังมาจากธุรกิจถ่านหินที่ 95% แต่หลักจากเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน ABM สัดส่วนรายได้จากถ่านหินจะลดลง และบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่มีความยั่งยืน จากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโลจิสติกส์ จากกลุ่มลูกค้าภายนอก ทั้งจากกลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเป็น 50 % จากปัจจุบัน 35%

ส่วนธุรกิจพลังงานยั่งยืน ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายเชื้อเพลิง RDF ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงจากขยะ ภายใต้บริษัทย่อย GRDF อย่างต่อเนื่อง และธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย เอจีอี เวนเจอร์ หรือ AGEVT ซึ่งได้ตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการปล่อยเช่ารถ EV ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ โดยจะเริ่มในไตรมาส 4 ของปี 2567 และบริษัท เอจีอี ออโต้ แกลลอรี่ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจดีลเลอร์ขายรถไฟฟ้า EV ในปัจจุบัน กำลังก่อสร้างโชว์รูม 2 แห่ง คือ OMODA & JAECOO สาขารามคำแหง และ Neta สาขาพระราม 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 และ ไตรมาส 2 ของปี 2568 การปรับแผนธุรกิจครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และตั้งเป้าว่า ในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะมีสัดส่วนกำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) มาจากธุรกิจยั่งยืน 50% และธุรกิจถ่านหิน 50 %

ด้านนายปองธรรม แดนวังเดิม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM  กล่าวว่า คาดการณ์ปีหน้ายอดขายเดิมของ AGE จะอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากธุรกิจโลจิสติกส์ 200 ล้านบาท กำไรจากถ่านหินประมาณ 100 ล้านบาท ดังนั้น AGE จะมีกำไรจากธุรกิจเดิมประมาณ 250-300 ล้านบาท ส่วน เอจีอี เวนเจอร์ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าจะช่วยสนับสนุนกำไรประมาณ 40-50 ล้านบาท รวมแล้ว AGE จะมีกำไรราว 300-350 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2569 กำไรของถ่านหิน จะกลับมาที่ราว 400-500 ล้านบาท

Back to top button