“บล.ทิสโก้” ชี้หาก “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง กระทบตลาดหุ้นเอเชีย
“บล.ทิสโก้” ชี้เลือกตั้งสหรัฐฯหาก “ทรัมป์” ชนะ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย เพราะมีเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้า ส่งผลกระทบเงินเฟ้อ
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด มีการวิเคราะห์คาดการณ์เกี่ยวกับการลงทุน หากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 พ.ย.67 นี้ ระหว่างชัยชนะของ นางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต และชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ทั้งเรื่องผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ, ตลาดหุ้นเอเชีย และ ตลาดพันธบัตร
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ระบุถึงผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย หากนายทรัมป์เป็นผู้ชนะนั้น นโยบายขึ้นภาษีนำเข้า 60% กับจีน, 10% กับประเทศทั่วไป อาจไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้นจะเพิ่มเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ขณะเดียวกันหาก นางแฮร์ริส เป็นฝ่ายชนะ ตลาดหุ้นเอเชียอาจจะคลายความกังวลเรื่องภาษีนำเข้า ส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนในเอเชียได้
สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐ ฟากนักวิเคราะห์ทิสโก้ มองว่า ถ้าหากนายทรัมป์เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ จะมีการปรับขึ้นทันทีจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 15% ซึ่งมีการประเมินว่าจะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัท ใน S&P 500 ประมาณ เพิ่มขึ้น 4% ในส่วนของนางแฮร์ริสถ้าหากรับชัยชนะครั้งนี้ จะเสนอให้เพิ่มภาษีนิติบุคคลเป็น 28% ส่งผลลบต่อกำไรประมาณ ลดลง 5% ถึง ลดลง 8% เมื่อรวมผลจากนโยบายด้านภาษีอื่นๆ
ด้านผลกระทบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี อาจปรับสูงขึ้น เนื่องจากนโยบายของทั้งแฮร์ริสและทรัมป์ น่าจะส่งผลให้สหรัฐ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น คล้ายกัน โดยหากทรัมป์ชนะและพรรครีพับลิกันครองคะแนนเสียงข้างมากอาจสนับสนุนให้ Bond Yield สูงถึง +40bps ในขณะที่ถ้าแฮร์ริสชนะและไม่มีพรรคไหนครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาพ อาจจะส่งผลต่อ Bond Yield มากสุดที่ประมาณ +20bps
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากหลักทรัพย์ทิสโก้ บ่งชี้ ตลาดประเมินโอกาสชนะของทรัมป์ มีสูงกว่า แฮร์ริส และคาดว่าพรรครีพับลิกันจะควบอำนาจมีที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา หากเป็นไปตามคาด ตลาดหุ้นสหรัฐ และ Bond Yield คาดว่าจะมีทิศทางขาขึ้นหลังการเลือกตั้ง แต่ในขณะเดียวกันจะมาพร้อมกับผันผวนที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย