สัญญาณดี! “กองทุนน้ำมันฯ” ติดลบต่ำกว่าแสนล้าน ลั่นล้างหนี้หมดเกลี้ยงปี 71
สัญญาณดี! “กองทุนน้ำมันฯ” ปี 67 (1 ต.ค.66-30 ก.ย.67) ติดลบต่ำกว่าแสนล้าน หลังสภาพคล่องปรับตัวดีขึ้นมีรายรับราว 7,000 - 9,000 ล้านบาท/เดือน เล็งชำระหนี้เงินกู้เสร็จสิ้นในเดือนก.ย.71
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เผยผลการดำเนินการในรอบปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค.66-30 ก.ย.67) ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ฐานะของกองทุนในปัจจุบันติดลบไม่ถึงแสนล้านบาท หลังสภาพคล่องเริ่มดีขึ้นในเดือน ส.ค.67 โดยมีรายรับราว 7,000-9,000 ล้านบาท/เดือน ส่งผลให้ประมาณการฐานะกองทุนจากวันที่ 28 ก.ค.67 ที่เคยติดลบ 111,663 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 64,066 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 47,597 ล้านบาท) แต่เมื่อวันที่ 29 ก.ย.67 เหลือติดลบ 99,087 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 51,643 ล้านบาท และบัญชี LPG 47,444 ล้านบาท)
ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในรอบปีที่ผ่านมาเฉลี่ยโดยรวมลดลงจากปีงบประมาณก่อน โดยราคาน้ำมันตินดิบตลาดดูไบอยู่ที่ 81.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้อยกว่าปีงบประมาณก่อนซึ่งอยู่ 83.49 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 102.01 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 112.90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันเบนซินเฉลี่ย 95.12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 99.60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ถึงแม้เฉลี่ยราคาน้ำมันดีเซลจะลดลงแต่ยังอยู่ในอัตราที่สูงเกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ สงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ส่วนสถานการณ์ที่ทำให้ราคาปรับลงมาจากเรื่องภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเทศจีนที่เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันลดลดลง
สำหรับการรักษาระดับเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนน้ำมันฯ มีการดำเนินการตามแผนวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อให้ราคาขายปลีกปรับลดลง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลช่วงระหว่างเดือน ก.ย.66 ถึงเดือน มี.ค.67 รัฐบาลได้กลับไปตรึงราคาดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร หลังจากขยับเพดานไปอยู่ที่ 32 บาท/ลิตร
ขณะเดียวกันมีการลดการจัดเก็บเงินในกลุ่มน้ำมันเบนชินลง 1 บาท/ลิตร เพื่อลดราคาชายปลีกลง 1 บาทในช่วงเดือน พ.ย.66 ถึงเดือน ม.ค.67 ทำให้รายรับของกองทุนน้ำมันฯ น้อยลง โดยกองทุนน้ำมันฯ ยังต้องให้การอุดหนุนราคาน้ำมันอยู่ ส่วนก๊าซ LPG ก็ถูกตรึงราคาตลอดปีตั้งแต่เตือน ต.ค.66 จนถึงปัจจุบันที่ 423 บาพ/ถังขนาด 15 กก.
การดำเนินงานของกองทุนน้ำมันฯ ได้รับคะแนนประเมินจากทุนหมุนเวียนในปีบัญชีเบื้องต้นอยู่ที่ 4.45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 ส่วนคะแนนการประเมิน ITA สกนช.ได้รับ 95.96 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 ซึ่งมากที่สุดในหน่วยงานของกระทรวงพลังงาน และเป็นที่ 2 ขององค์การมหาชน
สำหรับในปีงบประมาณ 2568 กองทุนน้ำมันฯ ยังคงดำเนินการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 โดยเฉพาะราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงไว้ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ นอกจากนี้ยังมีภารกิจที่สำคัญดังนี้
1.การชำระหนี้เงินกู้ยืมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน โดยจะเริ่มชำระเงินต้นในเดือน พ.ย.67 ประมาณ 139 ล้านบาท และเพิ่มการผ่อนชำระหนี้เงินต้นขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละเดือนตามวงเงินกู้ยืม ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่รวมดอกเบี้ยเงินกู้ยืมอีกประมาณ 250-300 ล้านบาท/เดือน โดยจะชำระหนี้เงินกู้เสร็จสิ้นในเดือน ก.ย.71
2.การติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ยังคงมีความผันผวนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องเรียกเก็บเงินไว้ในช่วงที่ยังมีภาระหนี้เงินกู้ยืมเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
3.การจัดทำแผนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2568-2572 เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
4.สกนช.ดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันฯ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.67
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันฯ จะรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหลักการดำเนินการที่ว่า เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้” นายพรชัย กล่าว