รัฐบาล ยัน “กลุ่มสีเทา” ไม่มีโอกาสขอสัญชาติไทย
โฆษกรัฐบาล ย้ำสัญชาติไทยให้เฉพาะผู้ที่ยื่นขอไว้ หลังกรณีครม. เห็นชอบให้กลุ่มชาติพันธุ์ 4.83 แสนคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 พ.ย. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอในการลดขั้นตอนการให้สัญชาติไทยกับบุคคลกว่า 4.8 แสนคนนั้น ยืนยันว่า เป็นการให้สัญชาติต่อผู้ที่ยื่นขอไว้ และอยู่ในระบบของทางราชการมากกว่า 30 ปี ไม่ใช่ให้สัญชาติแก่ คนสีเทา ๆ หรือพวกอาชญากรข้ามชาติ
นายจิรายุ กล่าวว่า ที่สมช.เสนอ ครม.นั้น เพื่อเป็นการลดขั้นตอนและเงื่อนไข เพราะตั้งแต่ ปี 2535-2566 มีประมาณ 8.25 แสนคน ใช้เวลาไปแล้วถึง 31 ปี หลายรัฐบาลอนุมัติเพียง 3.24 แสนคน คนจำนวนมากรอจนเสียชีวิตไปแล้วก็มาก เนื่องจากรอขั้นตอนทางราชการของหน่วยงานความมั่นคงทางปกครองมานานกว่า 30 ปี ปัจจุบันยังมีตกค้างอยู่อีกราว 4.83 แสนคน ทาง สมช. เห็นว่า หากยังใช้ขั้นตอนเดิมในยุคก่อนที่ต้องตรวจสอบและจัดทำประวัติแบบอนาลอก (Analog) ไม่รวดเร็วและทันสมัยเท่าปัจจุบัน ต้องใช้เวลาถึง 44 ปี แต่ปัจจุบันมีระบบจัดเก็บข้อมูลประวัติลายนิ้วมือทางคอมพิวเตอร์ หรือระบบไบโอเมตริกซ์ ก็จะรวดเร็วจากการลดขั้นตอนได้มาก
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า สมช. ยืนยันว่า คนจำนวน 4.83 แสน แบ่งเป็นกลุ่มแรก 3.40 แสนคน ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและจัดเก็บฐานข้อมูลต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว โดยคนกลุ่มนี้จะได้รับใบถิ่นที่อยู่ถาวรและต้องใช้เวลาขั้นต่ำอีก 5 ปี เพื่อขอแปลงสัญชาติเป็นไทย และเมื่อได้รับสัญชาติไทยแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิทางการเมือง เช่น การลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งไปลงคะแนนเลือกตั้งได้ในทุกระดับ โดยต้องแปลงสัญชาติมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี จึงจะมีสิทธิ เท่ากับว่าต้องใช้ระยะเวลาอย่างต่ำ 10 ปี ส่วนกลุ่มที่ 2 ประมาณ 1.43 แสนคน เป็นบุตรที่เกิดจากบุคคลกลุ่มแรกที่เกิดในประเทศไทย ที่มีเอกสารการเกิดจากสถานที่เกิดต่าง ๆ ในประเทศไทย
ในอดีตเรามีคนโพ้นทะเลอพยพมาในสยามหรือประเทศไทย เรามีผู้อพยพยุคเวียดนามใต้ ในยุคไซ่ง่อนแตก เรามีไทยรามัญ และอีกหลากหลายประเทศเข้ามาอยู่อาศัย ซที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็เข้มงวดในการให้สัญชาติ โดยประเทศไทยได้ให้สัญชาติไทยไปแล้วนับล้านคน โฆษกรัฐบาล กล่าวทิ้งท้าย