“ศปช.” เตือน 11 จังหวัดภาคใต้ รับมือ “ฝนตกหนัก” เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 2-8 พ.ย.นี้
“ศปช.” เตือน 11 จังหวัดภาคใต้ ช่วงวันที่ 2 - 8 พ.ย. 67 ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า ศปช. เตือนประชาชนพื้นที่ภาคใต้ช่วงวันที่ 2 – 8 พ.ย. 67 ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ใน 11 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย จังหวัดชุมพร อำเภอเมืองชุมพร สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ
จังหวัดระนอง อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี กาญจนดิษฐ์ พนม บ้านนาสาร บ้านนาเดิม พุนพิน เคียนซา พระแสง ดอนสัก และเกาะสมุย
จังหวัดพังงา อำเภอตะกั่วป่า และกะปง
จังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง
จังหวัดกระบี่ อำเภอเมืองกระบี่ เหนือคลอง และคลองท่อม
จังหวัดตรัง อำเภอเมืองตรัง ย่านตาขาว ห้วยยอด นาโยง และวังวิเศษ
จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ขนอม ทุ่งสง สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร
จังหวัดพัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง และควนขนุน
จังหวัดสงขลา อำเภอเมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด นาทวี สิงหนคร หาดใหญ่ และรัตภูมิ
นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังน้ำในอ่างเก็บน้ำพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำรัชชประภา และอ่างเก็บน้ำบางลาง นอกจากนี้ยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กอีก 7 แห่ง อาทิ อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำคลองหยา อ่างเก็บน้ำบางวาด อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ และอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนังที่มีปริมาณน้ำมากกว่าความจุต้องมีการปรับระบายน้ำบางส่วน
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เริ่มติดตามสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคเหนือ 7 จังหวัด เพื่อเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปี 2568 แล้ว ซึ่งได้สรุปผลถอดบทเรียนจากการดำเนินงานในครั้งก่อน นำมาเป็นแผนปฏิบัติงานในระดับจังหวัดในปี 2568 รวมถึงใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2569-2573) แบ่งการบริหารออกเป็น 6 มิติ ประกอบด้วย มิติป่าสงวนฯ , มิติป่าอนุรักษ์ , มิติชุมชนเมือง ระบบขนส่ง อุตสาหกรรม และอื่นๆ , มิติด้านการเกษตร , มิติด้านการบริหารและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และ มิติด้านการลดผลกระทบด้านสุขภาพ นำมาเป็นแผนหลักในการปฏิบัติการรับมือกับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปี 2568