จับตา “ต่างชาติ” ย้ายลงทุน “Data Center” เวียดนามมาไทย
จับตา “ต่างชาติ” ย้ายลงทุน “Data Center” จากเวียดนามมาประเทศไทย หากร่างกฏหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับการคุ้มครองการเข้าถึงข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (4 พ.ย.67) สำนักข่าว “รอยเตอร์ส” รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ออกโรงเตือนรัฐบาลเวียดนามถึงเรื่องกฎหมายร่างที่มีจุดประสงค์จะเข้มงวดกฎการคุ้มครองข้อมูลและจำกัดการโอนถ่ายข้อมูลไปต่างประเทศ จะทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลไม่สามารถเติบโตในประเทศเวียดนามได้ ซึ่งปัจจุบันประเทศเวียดนามมีประชากร 100 ล้านคน นับว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Facebook และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ และถูกตั้งเป้าที่จะเพิ่มอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูล (Data Center) ให้เติบโตมากขึ้นด้วยการลงทุนจากต่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้
โดยก่อนหน้านี้ เวียดนาม เพิ่งเผยแพร่ร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎหมายข้อมูลและร่างกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล หวังมุ่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ในด้านข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ จนกระทั่งกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ซึ่งรับผิดชอบในการร่างพระราชกฤษฎีกา ได้ส่งร่างกฏหมายดังกล่าวให้รัฐบาลอนุมัติเป็นขั้นสุดท้าย โดยคาดว่ากฎหมายใหม่การควบคุมข้อมูลนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.68
ด้าน นายเจสัน อ็อกซ์แมน ประธานของสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITI) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Meta, Google และ Equinix กล่าวแสดงความเห็นถึงเรื่องกฎหมายร่างดังกล่าว นี่เป็นความท้าทายสำหรับบริษัทเทคโนโลยี, แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล ในเรื่องระบบปฏิบัติการที่จะเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าที่พึ่งพาพวกเขาเป็นประจำทุกวัน
สำหรับ ทางการเวียดนาม เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในรัฐสภาภายในเดือนนี้ ซึ่งมีเจตนามุ่งหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ โดยมีกำหนดจะผ่านกฎหมายในวันที่ 30 พ.ย.67นี้ หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เรื่องดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกฎหมายเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบันมีการจำกัดการโอนข้อมูลข้ามพรมแดนในบางกรณี แต่ไม่ค่อยมีการบังคับใช้งานเท่าไหร่
ขณะที่ นายอดัม ซิตคอฟ ผู้อำนวยการบริหารหอการค้าอเมริกันในกรุงฮานอย กล่าวว่า มีการเจรจาเพื่อชักชวนให้ทางการเวียดนามลองพิจารณาใหม่เกี่ยวกับกระบวนการออกกฎหมายที่เร่งรีบนี้ ซึ่งสร้างความท้าทายและยุ่งยากด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างมีนัยสำคัญสำหรับบริษัทในภาคเอกชนส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม หากกฏหมายใหม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศด้วย โดยสำนักข่าว “รอยเตอร์ส” ระบุว่าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า Google กำลังพิจารณาจะจัดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในภาคใต้ของเวียดนาม ซึ่งอาจจะต้องปรับแผนใหม่ใหม่เพื่อหาจุดศูนย์กลางการลงทุนด้านข้อมูลจากต่างประเทศ โดยบริษัทวิจัย BMI ได้ระบุว่า เวียดนามอาจเคยเป็นตัวหลักในอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค แต่เนื่องจากข้อจำกัดเกี่ยวกับการถือหุ้นของชาวต่างชาติจะสิ้นสุดในปีหน้า รวมถึงกฎหมายร่างฉบับใหม่ที่ควบคุมการเข้าถึงข้อมูล อาจจะทำให้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีภูมิภาคนี้ในภายหลัง
“นี่จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติ บริษัทเทคโนโลยีและบริษัทอื่น ๆ ต้องการการไหลของข้อมูลข้ามพรมแดนเพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงการให้บริการศูนย์ Data Center แต่หลายขอบเขตอำนาจศาล รวมถึงสหภาพยุโรปและจีน ได้จำกัดการส่งข้อมูลดังกล่าว โดยอ้างว่าจะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ มีความกังวลกับรัฐบาลเวียดนามเกี่ยวกับ“การเข้าถึงข้อมูลของรัฐบาลที่ครอบคลุมอย่างไม่สมเหตุสมผล” นาย เจสัน กล่าวทิ้งท้าย