แนวโน้ม SET เช้าไซด์เวย์ เกาะติดเลือกตั้งปธน.สหรัฐ ลุ้น “ทรัมป์” ประเดิมคว้าชัย 3 รัฐ
แนวโน้ม SET เช้าแกว่งตัว นักลงทุนเกาะติดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง หากหากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนในะระยะสั้น และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับอานิสงส์บางจุด ให้แนวรับที่ 1,470 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,500 จุดอีกครั้ง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ได้แรงส่งจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 จากระดับ 54.9 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.8
ขณะที่นักลงทุนกลับมารอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง โดยล่าสุดในหลายรัฐก็ได้ปิดหีบการเลือกตั้งแล้ว ทั้งนี้ยังต้องจับตาไปที่รัฐสมรภูมิ (swing state) 7 รัฐ เนื่องจากผล สำรวจคะแนนนิยม นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสชนะ 5 ใน 7 รัฐ ส่งผลให้ภาพรวมทรัมป์มีโอกาสชนะเลือกตั้งในครั้งนี้มากกว่า
อย่างไรก็ตามมองว่าหากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนในะระยะสั้น และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับอานิสงส์บางจุด เช่น การย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยมากขึ้น เป็นต้น และไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ คาดตลาดหุ้นไทยเลือกที่จะขึ้นมากกว่าลง ให้แนวรับที่ 1,470 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในวันเลือกตั้ง โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.02% และ S&P500 เพิ่มขึ้น 1.23% ส่วน Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.43% และ Russell 2000 เพิ่มขึ้น 1.88% ได้แรงหนุนจากดัชนีภาคบริการ (ISM Services) ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการและแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
รวมถึงผลประกอบการที่ดีเกินคาดจากหุ้นเทคโนโลยีอย่าง GlobalFoundries และ Palantir Technologies ที่รายงานรายได้และคาดการณ์กำไรที่แข็งแกร่ง ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,481.67 จุด ปรับตัวขึ้น 18.72 จุด สอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค แรงซื้อมาจากทั้งนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิ 1,442 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบนที่ซื้อสุทธิ 1,579 ล้านบาท หุ้นที่ปรับตัวขึ้นหนุนตลาดอย่างมากคือ DELTA ที่ปรับตัวขึ้นราว 6%, หุ้นในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์จากการที่ OPEC+ ชะลอการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปอีก 1 เดือนจากแผนเดิม และหุ้นในกลุ่มค้าปลีกก็ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่มีแนวโน้มดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์วันนี้ SET อาจแกว่งตัวในกรอบ 1,470 – 1,490 จุด จับตาการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่น่าจะพอเห็นทิศทางของคะแนนตั้งแต่ช่วงสายเป็นต้นไป โดยมีรัฐสมรภูมิหลัก 7 รัฐ ซึ่งโพลเมื่อคืนนี้มี 5 รัฐ ที่ทรัมป์มีคะแนนนำ ในขณะที่แฮร์ริสนาในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน ซึ่งเป็น Blue Wall หรือรัฐสมรภูมิที่เดโมแครตมักจะได้รับชัยชนะ ทั้งนี้แนะนำให้จับตาไปที่รัฐ เพนซิลเวเนียที่มี Electoral Vote มากที่สุดถึง 19 เสียง โดยถึงแม้ทรัมป์มีผลโพลที่ แต่ก็ยังมีความสูสีอย่างมาก และอาจเป็นรัฐที่ตัดสินผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้