HFT โชว์กำไร 9 เดือนปีนี้โต 10% ยอดขายทะลัก 2 พันล้าน รับออเดอร์ยุโรป-OEM ในประเทศพุ่ง
HFT งบ 9 เดือนแรกปี 67 กำไรแตะ 220.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากรายได้การขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ฟาก “จวง จื้อ เหยา” ระบุโค้งสุดท้ายเดินหน้าฉายแววโตต่อเนื่อง รับออเดอร์ในประเทศ-ต่างประเทศพุ่ง ลุยติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพิ่มผลผลิตสินค้าคุณภาพพรีเมียม สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ผลักดันอนาคตโตแรง
นายจวง จื้อ เหยา Vice President บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) มีกำไรสุทธิ 220.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.14 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.04% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 200.55 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 2,185.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.52% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขาย 1,908.17 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 เติบโตขึ้น เป็นผลมาจากยอดขายเพิ่มขึ้น 14.52% จากกำลังซื้อยางนอกและยางในรถจักรยานกลุ่มลูกค้ายุโรปเพิ่มมากขึ้น หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยอดขายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์เพิ่มสูงขึ้น จากกำลังซื้อของลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เกิดจากรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่จากโรงงานผู้ผลิตมีแนวโน้มการขายที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น
“ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ HFT ยังสามารถทำผลงานเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากกำลังซื้อยางนอกและยางในรถจักรยานกลุ่มลูกค้ายุโรป รวมถึงกำลังซื้อยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์กลุ่มลูกค้า OEM ในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และกระแสกลุ่มปั่นจักรยานกำลังเป็นที่นิยมในยุโรป นอกจากนั้นเรายังมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า พร้อมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายจวง จื้อ เหยา กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะยังมีเติบโตในทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อผลิตสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม และสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากขึ้น