“นิสสัน” เสี่ยงผิด “ชำระหนี้” สูง ติดอันดับ 4 บริษัทของญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย. 67) สำนักข่าวต่างประะเทศ รายงานความเสี่ยงจากการผิดชำระหนี้ของ นิสสัน มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (Nissan Motor Corporation) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกของประเทศญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้น และราคาหุ้นร่วงลง ถึง 10% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้

หลังจาก นิสสัน ปรับลดคาดการณ์กำไรในปีงบการเงินนี้ และประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 67 ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสถานะเครดิตของบริษัท

ข้อมูลจากซีเอ็มเอ (CMA) ผู้ค้าตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันการผิดนัดชำระหนี้ (Credit-default swap trader) พบว่าค่าธรรมเนียมคุ้มครองความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของนิสสัน อยู่ที่ 180 เบซิสพอยต์ (Basis Point) ในเช้าวันนี้ โดยพุ่งสูงขึ้นประมาณ 13 เบซิสพอยต์ จาก 178 เบซิสพอยต์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน มี.ค.67

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนต.ค. CDS ของนิสสันสูงแซงหน้า CDS ของ ชาร์ป คอร์ปอเรชัน (Sharp Corporation) ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 ของญี่ปุ่น มีหมายความว่าเป็นบริษัทที่ตลาดมองว่า มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูงเป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น

นิสสัน พยายามรับมือกับสภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยากลำบากยิ่งขึ้น และพยายามแก้ไขจุดอ่อนภายในบริษัท ทำให้ต้องลดเงินเดือน ลดการผลิต และลดตัวเลขพยากรณ์กำไร นอกจากนี้ยังเตรียมขายหุ้นบางส่วนใน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน (Mitsubishi Motors Corporation) เพราะใช้เงินสดไปมากถึง 448,300 ล้านเยน (ประมาณ 99,880 ล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ มิซูโฮ ซีเคียวริตีส์ (Mizuho Securities Co.) ได้ปรับลดแนวโน้มเครดิต (Credit Outlook) ของนิสสันลงจาก “คงที่” (Stable) เป็น “ลบเล็กน้อย” (Slightly Negative)

นายเค็งโงะ โคเอทากะ (Kengo Koetaka) นักวิเคราะห์ของมิซูโฮ รายงานอ้างถึงคาดการณ์ผลการดำเนินงานของนิสสันว่า ผลกำไรของธุรกิจยานยนต์ของนิสสัน จะลดลงตั้งแต่ปีงบฯ ปัจจุบัน (เม.ย. 67-มี.ค.68) ไปจนถึงปีงบฯ ถัดไป ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 69 เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในสหรัฐฯ แย่ลง และบันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการพลิกกลับสถานการณ์ของบริษัท