เปิด 3 หุ้นตัวท็อป! ธีม “China Play” รับส่งออกจีน ต.ค.โต 13% พ่วงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บล.กรุงศรี จัดธีมลงทุน “China Play” ชู 3 หุ้นตัวท็อป! SCC-IVL- PTTGC รับตัวเลขส่งออก “จีน” เดือนต.ค.โต 13% พ่วงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพิ่มเติม วงเงิน 4-10 ล้านล้านหยวน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจหุ้นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ จากกรณีจีนรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. โต 12.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม คาดจะมีเม็ดเงินกระตุ้นรอบใหม่ราว 4-10 ล้านล้านหยวน โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลมาจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KKS ได้ระบุไว้ดังนี้
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยยอดส่งออกของจีนขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนต.ค. โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ในต่างประเทศและการผลิตภายในประเทศขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง
โดยข้อมูลจากGAC ระบุว่า ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 12.7% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.2% นอกจากนี้ยอดส่งออกเดือนต.ค.ยังแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4%, 8.7% ในเดือนส.ค. และ 7% ในเดือนก.ค.
ส่วนยอดนำเข้าลดลง 2.3% ในเดือนต.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5% นอกจากนี้ ยอดส่งออกในเดือนต.ค.ยังปรับตัวลงสวนทางกับในเดือนก.ย.ที่ดีดตัวขึ้น 0.3% และในเดือนส.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 0.5%
ทั้งนี้การส่งออกที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 9.527 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.35 หมื่นล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 8.171 หมื่นล้านดอลลาร์
บล.กรุงศรี ระบุอีกว่า แนะนำติดตามการแถลงนโยบายหลังการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ของจีน ซึ่งดำเนินมาตลอดทั้งสัปดาห์ คาดมีโอกาสเห็นแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีและปี 2568 ผ่านทาง 1) การบริโภคภายในประเทศ 2) ภาคอสังหา 3) การเสริมสภาพคล่องให้กับรัฐบาลท้องถิ่น 4) การเสริมความเชื่อมั่นตลาดทุน
โดยคาดหวังเม็ดเงินรวมราว 4-10 ล้านล้านหยวน (5-10% ของ GDP จีน) มองเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงให้ปรับตังขึ้นแรง ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนมองเป็นบวกต่อหุ้น China Play นำโดย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC, บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC
สำหรับ PTTGC แนะนำราคาเป้าหมาย 30 บาท โดยคาดไตรมาส 4/67 ขาดทุนปกติน้อยลงฟื้นทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยการฟื้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะ stock loss น้อยลง, โรงโอเลฟินส์ปิดซ่อมน้อยลง และ กำลังซื้อใน EU ที่เพิ่มขึ้น หนุนปริมาณขายและอัตรากำไรของ allnex ฟื้น เทียบไตรมาสก่อนหน้า มาจากฝั่งโรงกลั่นเป็นหลัก stock loss น้อยลง และค่าการกลั่นฟื้นตาม demand Gasoil ช่วงฤดูหนาว และ Jet ช่วงท่องเที่ยว กลบ ฝั่งปิโตรเคมีที่ บางส่วนเป็น low season และสายโอเลฟินส์มีผลกระทบปรับราคาก๊าซฯกับ PTT ย้อนหลังทั้งปี (คาดกระทบราว 670 ล้าน)
สำหรับทิศทางราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(YTD) ลดลง 31% ได้สะท้อนด้อยค่าฯที่ฉุดให้มีขาดทุนก้อนใหญ่ในปี 2567 รวมถึงการฟื้นตัวช้าของปิโตรเคมี ไปแล้ว ลุ้นแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ส่วน IVL แนะนำราคาเป้าหมาย 24 บาท แม้ว่าผลงานไตรมาส 4/67 เทียบไตรมาสก่อนหน้าจะเข้าสู่ low season ของฝั่งธุรกิจ PET และ IOD เพราะความต้องการขวดน้ำที่ลดลงในช่วงฤดูหนาว และความต้องการ MTBE ไปผสม gasoline ลดลง และไม่ใช่ crop season ส่งให้ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 3%เทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่คาด stock loss ที่ลดลงจะกลบได้ และส่งให้กำไรปกติยังฟื้นต่อ เทียบไตรมาสก่อนหน้า
อีกทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนพลิกทำกำไรได้ เมื่อเทียบไตรมาส 4/66 ขาดทุนปกติ 4,129 ล้านบาท จากไม่มี stock loss 1,774 ล้านบาท มาฉุด และการลด run ของโรงผลิตจีน (u-rate ลงมาเหลือราว 70-75% เทียบช่วงปกติที่สูงกว่า 85%) ส่งให้ integrated PET spread ฟื้นตัวหนุนอัตรากำไร โดยมองว่าราคาหุ้นจะได้ปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และ Spread ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี