“เอกภาวิน” มอง SET พักตัว แนะสะสม 6 หุ้นพื้นฐานแกร่ง

“เอกภาวิน สุนทราภิชาติ” มองตลาดหุ้นไทยพักตัว เกาะติดนโยบายหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ-จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อปลายปีตลาดจะปรับตัวคึกคักขึ้น แนะเก็บสะสมหุ้น BBL-CPALL- AOT- GULF- AP-LH


นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทย วันนี้ (11 พ.ย. 67) ในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ว่าหุ้นไทยยังมี Downside สาเหตุจากความกังวลนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ทั้งเรื่องการค้าระหว่างประเทศ หรือนโยบายที่จะทำให้มีการขาดดุลทางการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดมีความกังวลถึงเงินเฟ้อที่จะเร่งตัวขึ้น

โดยอาจจะสร้างความไม่แน่นอนเรื่องการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่ทางฝั่งจีนเช้านี้ฮั่งเส็งฮ่องกง ลบไปกว่า 2% รายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ยังคงมีปัญหาเรื่องเงินฝืด แม้ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาแล้วแต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้ผลเท่าไร

ดังนั้น 2 ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวในแดนลบต่อวันนี้ให้โซนแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,460-1,450 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,470-1,480 จุด

ส่วนกรณีของ “ทรัมป์” จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแต่ต้องใช้เวลา อีกทั้งปัจจุบันยังไม่รู้ว่านโยบายของทรัมป์จะเข้มข้นมากน้อยขนาดไหน ตลาดหุ้นไทยจึงอยู่ในโหมดที่เป็นภาพของความระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม มองว่าครึ่งหลังของเดือน พ.ย. หรือช่วงปลายเดือน ตลาดหุ้นเอเชียและไทยจะดีขึ้น โดยคาดว่ายังมีแรงรับจากฝั่งนักลงทุนสถาบัน เพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสม ทั้งจากกองทุนวายุภักษ์ หรือ กองประหยัดภาษี อย่าง RMF,  SSF, Thai ESG จะเข้ามามากในช่วงปลายปี

“ตลาดเป็นการพักตัวแต่ภาพรวมจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อ ในเดือน ธ.ค. ตลาดก็น่าจะกลับมาปรับตัวขึ้นได้ และมองเป้า SET Index มีโอกาสทดสอบ 1,530 จุด ดังนั้นเมื่อดัชนีย่อตัวลงมาเป็นโอกาสเก็บหุ้น โดยรอแนวรับเหมาะสมแถวบริเวณ 1,440-1,430 จุด” นายเอกภาวิน กล่าว

พร้อมแนะนำหุ้นไทยที่เป็นเป้าหมายของกองทุนต่างๆ เพื่อเป็นโอกาสในการซื้อสะสมในช่วงนี้ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP และ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH

Back to top button