KKPS แนะซื้อ SIRI เป้า 2.16 บาท ลุ้นรายได้ Q4 แตะ 1.3 หมื่นล้าน

KKPS ประเมิน SIRI โบรกชี้รายได้ไตรมาส 4/67 แตะ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ได้รับแรงหนุนจากส่วนแบ่งตลาดยอดพรีเซล คงคำแนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 2.16 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กำลังพิจารณาปรับลดจำนวนโครงการใหม่ลงประมาณ 25% (ตามมูลค่าโครงการ) เพื่อเตรียมพื้นที่ให้พร้อมและสะท้อนการฟื้นตัวที่ช้าของเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์จึงปรับลดประมาณการกำไรหลักสำหรับปี 2567 ลง 7% โดยปรับลดประมาณการยอดขายที่อยู่อาศัยลง 8% และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลง 0.5% และในปี 2568 ลง 8.6% ปรับลดประมาณการยอดขายที่อยู่อาศัยลง 11% และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลง 0.7%

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารายได้ของ SIRI ในไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นหลักเดียวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับเป้าหมาย presales ที่ 4.5 หมื่นล้านบาทในปี 67 มีความเสี่ยงด้านลบราว 5% โดยแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ทำให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า แต่ presales ของ SIRI ก็ทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเทียบกับการลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในหมู่ผู้พัฒนาโครงการ 10 อันดับแรก

โดยคาดการณ์ว่ากำไรของ SIRI ในไตรมาส 4/67 จะเติบโตเล็กน้อย โดยกำไรจากการขายธุรกิจบริหารโรงแรม (The Standard) อาจได้รับการตัดจำหน่ายในช่วง 4 ปีข้างหน้า และบันทึกบางส่วนในไตรมาส 4/67

ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 2.16 บาทต่อหุ้น จากเดิม 2.36 บาท โดยได้รับแรงหนุนจากส่วนแบ่งตลาดยอด presales ที่อาจเพิ่มขึ้นจากการรวมกิจการภายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และการปรับปรุงประสิทธิภาพของบริษัท และคาดการณ์ว่า SIRI จะมีกำไรในปี 67 อยู่ที่ 5.11 พันล้านบาท และในปี 68 คาดการณ์กำไรอยู่ที่ 5.41 พันล้านบาท และในปี 69 คาดการณ์กำไรอยู่ที่ 5.82 พันล้านบาท

โดยในไตรมาส 3/67 บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1,300 ล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 6% จากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับประมาณการของทางฝ่ายวิเคราะห์ และการคาดการณ์ของตลาด หากไม่รวมกำไรสุทธิจากการขายที่ดินให้แก่ JV มูลค่า 56 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,370 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่กำไรหลักของงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 คิดเป็น 74% ของประมาณการทั้งปีของทางฝ่ายนักวิเคราะห์ และ 80% ของการคาดการณ์ของตลาด ยอด presales ในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 10,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และทำผลงานได้ดีกว่าบริษัทอื่นๆ ในภาคส่วน) โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิทรงตัวจากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 1.6 เท่า

Back to top button