โบรกแนะ “ถือ” GULF เป้า 64 บาท หลังโชว์กำไร Q3 โตกว่าคาด
“บล.เมย์แบงก์” แนะนำถือ GULF ราคาเป้าหมาย 64 บาท หลังโชว์กำไรไตรมาส 3 ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ในไตรมาสนี้มีการบันทึกกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 790 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ถือ” หุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ราคาเป้าหมาย 64 บาท หลังรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/67 ออกมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยกำไรไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 6 พันล้านบาท สอดคล้องกับการคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยที่ 5.9 พันล้านบาท แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ Bloomberg คาดการณ์ไว้ 11% ซึ่งอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสนี้ GULF ได้บันทึกกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบกับการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 790 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 66 และ 93 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 67
ด้านกำไรหลักในไตรมาส 3 ปี 67 อยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยที่ 4.7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นรายปีนั้นเนื่องมาจากความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้น 21% จากปีที่แล้ว จาก 1) การเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ของหน่วยโครงการ GPD ที่ 2 ในไตรมาส 4 ปี 66, 2) การเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ของหน่วย GPD ที่ 3 เมื่อ 1 เม.ย. 67 และ 3) การเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ของหน่วยโครงการหินกองที่ 1 เมื่อ 1 มี.ค.67
ส่วนกำไรหลัก 9 เดือนแรกปี 67 คิดเป็น 76% ของการคาดการณ์กำไรหลักทั้งปีของฝ่ายวิจัย