IMPACT กวาดรายได้ Q2 กว่า 414 ล้าน หนุนกำโต 11% เคาะปันผล 0.11 บาท

IMPACT ประกาศงบ Q2 ปี 67/68 รายได้รวม 414 ล้านบาท หนุนกำไรแตะ 181 ล้านบาท โตเกือบ 11% ไฟเขียวปันผลที่ 0.11 บ./หน่วย แย้มปลายปีอีเวนต์คึก โดยเฉพาะงานกลุ่ม Entertainment คอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีทั้งในและต่างประเทศ


นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (IMPACT GROWTH REIT) หรือ IMPACT เปิดเผยว่า กองทรัสต์ IMPACT ผู้นำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในอาเซียน พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโต รับทิศทางอุตสาหกรรม MICE ในเมืองไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง พร้อมโฟกัสตลาดลูกค้าจีน อินเดีย เวียดนาม และเกาหลี มีแผนจัดงานใหญ่ไปจนถึงปีหน้า สนับสนุนเป้าหมายรายได้ในปี 2567/2568 (งบปีสิ้นสุด 31 มีนาคม 2568) จะเติบโตราว 25% จากปีก่อนมีรายได้รวมประมาณ 1,752 ล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ Sky Entrance เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีชมพู ปัจจุบันดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วถึง 62.6% (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2567) คาดสนับสนุนกองทรัสต์ IMPACT ในปี 2568 เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง หนุนการจัดการ และนักท่องเที่ยว MICE คึกคักยิ่งขึ้น

ด้าน นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานกองทรัสต์ IMPACT ประจำไตรมาส 2 ประจำปี 2567/2568 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2567) มีรายได้รวม 413.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 386.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 180.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 163.4 ล้านบาท

โดยมีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยรวม 29.8% และมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยรวม 81.1 บาทต่อตารางเมตร ยังคงรักษาระดับผลการดำเนินงานได้ดี และจะกลับมาโดดเด่นในไตรมาส 3 ซึ่งอยู่ในช่วงปลายปี ในเดือนตุลาคม ถึง ธันวาคม มีลูกค้าจองคิวจัดงานแน่นไปจนถึงปีหน้า ตอกย้ำ เป็นศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ประจำปี 2567/2568 (เมษายน – กันยายน 2567) มีรายได้รวม 1,058.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.6% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 816.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 559.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.8% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 378.6 ล้านบาท

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับไตรมาส 2 ประจำปี 2567/2568 ที่ 0.11 บาท/หน่วย กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) เป็นวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 และวันที่จ่ายในวันที่ 13 ธันวาคม 2567

Back to top button