นายกฯ เผยเวที “เอเปค” ที่เปรู พบความสำเร็จงดงาม ชู 3 แนวคิดพัฒนาเศรษฐกิจ
“แพทองธาร” โพสต์สรุปภาพรวม ร่วมประชุมเอเปค ที่เปรู ภารกิจจบลงด้วยความสำเร็จงดงาม พร้อมแลกเปลี่ยน 3 แนวคิดพัฒนาเศรษฐกิจกับผู้นำโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 พ.ย.67) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงภายหลังปิดฉากการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเปรู ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยช่องทางโซเชียลมีเดียของ น.ส.แพทองธาร ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า “Ing Shinawatra” ระบุว่า “การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 จบลงแล้วด้วยความสำเร็จงดงามค่ะ”
น.ส.แพทองธาร ระบุอีกว่า ภาพรวมการประชุมเน้นส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ยั่งยืน และการใช้นวัตกรรม โดยได้แลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือ 3 ประเด็นกับผู้นำเอเปค ได้แก่ 1. การใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจในระบบ 2. การขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) และการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางดิจิทัลและ AI 3. การส่งเสริมความยั่งยืนและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยสานต่อเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (บีซีจี)
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ในช่วงการหารือระหว่างอาหารกลางวัน จัดโดย APEC Business Advisory Council (ABAC) ดิฉันได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับนายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ของแคนาดา และผู้แทน ABAC จากไทย แคนาดา สหรัฐฯ และจีนไทเป โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุม สร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม และการบริหารจัดการท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในงาน APEC CEO Summit ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ Ageing, Pandemics and the Path to Innovation เล่าถึงแนวทางของไทยในการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ อย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งรัฐบาลนี้ต่อยอดด้วยโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ รวมทั้งยังมีโครงการบริการการแพทย์ทางไกล การเตรียมความพร้อมสำหรับสังคมสูงวัย และนโยบายให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
“ในช่วงค่ำดิฉันได้เข้าร่วมงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ ซึ่งประธานาธิบดี Dina Ercilia Boluarte Zegarra แห่งสาธารณรัฐเปรูเป็นเจ้าภาพ ได้พบปะกับผู้นำจากเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ ภายในงาน และได้รับชมการแสดงทางวัฒนธรรมของเปรู ซึ่งสวยงามและเป็นที่ประทับใจด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มีความยั่งยืนและครอบคลุม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและคำนึงถึงอนาคตของเยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไปค่ะ” นายกรัฐมนตรี ระบุทิ้งท้าย