ชงครม. 29 พ.ย.นี้ “เงินช่วยชาวนาไร่ละ 500” หลังอนุฯ นบข. มีมติยกเลิก “ปุ๋ยคนละครึ่ง”

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (20 พ.ย.67) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ครั้งที่ 1/2567 ว่า ตามที่ คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 ให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ทบทวนโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือ โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง กรอบวงเงิน 29,980.1645 ล้านบาท เนื่องจากเกิดปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ และปัจจุบันล่วงเลยระยะเวลาการสนับสนุนปัจจัยการผลิต หรือปุ๋ย ไปแล้ว อีกทั้ง เดือนพ.ย.-ธ.ค.67 เกษตรกรส่วนใหญ่ 72.20% อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวและนำผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินงาน โครงการไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท เป็นจำนวนมาก

นางนฤมล กล่าวอีกว่า จากปัญหาอุปสรรคของโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และข้อเรียกร้องของชาวนา ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และเห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินรวมดอกเบี้ย 3.05% จำนวน 27,550.96 ล้านบาท เสนอ นบข. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้เห็นชอบหลักการมาตรการเพิ่มระดับผลิตภาพ (Productivity) ของการผลิตข้าวของศูนย์ข้าวชุมชนในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุข้าว จำนวน 2 โครงการ เป้าหมาย 543 ศูนย์ จำนวนเงิน 2,428.1830 ล้านบาท โดยใช้จากกรอบวงเงินที่เหลือจากโครงการสนับสนุนปุ๋ยฯ วงเงิน 2,429 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการศูนย์รวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าข้าว และ 2.โครงการสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะนำเสนอ นบข. พิจารณาอนุมัติเห็นชอบภายในสัปดาห์หน้า และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยทางนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย, ประธานกรรมการศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ตลอดจนผู้แทนชาวนา ต่างแสดงความคิดเห็นและพึงพอใจต่อมติดังกล่าว

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า มติยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่งมาเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาทไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินจำนวน 27,550.96 ล้านบาท เพื่อให้ชาวนาได้รับเงินชดเชยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลผลผลิต โดยพิจารณาตามกรอบวงเงินที่มีอยู่ คือ 29,980 ล้านบาท ส่วนวงเงินที่เหลือจะเสนอ 2 โครงการคู่ขนาน เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ศูนย์ข้าวชุมชนเกิดความเข้มแข็งต่อไปและไม่เป็นการเพิ่มภาระให้รัฐบาล อย่างไรก็ตามจะเดินหน้าโครงการใหม่นี้ได้ต้องเสนอขอเปลี่ยนแปลงมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 ที่ระบุไว้ว่าให้หน่วยงานหลีกเลี่ยงการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร

ทั้งนี้ ยังได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง คณะทำงานบริหารจัดการข้าว ตามนโยบายรัฐบาล 2 คณะ ได้แก่ 1.คณะทำงานบริหารจัดการเงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ โดยมีอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการรับเงินอุดหนุนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อีกทั้งต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขต่าง ๆ ในการดำเนินการตามโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร และ 2.คณะทำงานโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 ตามที่ นบข. มีมติเห็นชอบ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 เป้าหมายรวม 8.50 ล้านตัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 60,085.01 ล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อ 50,481.00 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 9,604.01 ล้านบาท ใน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 67/68 2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 67/68 และ 3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 67/68 โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมครม. สัญจร เชียงใหม่-เชียงราย อนุมัติ ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ย.67 ต่อไป