“แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์เวที Forbes ชู “ซอฟต์พาวเวอร์” หนุนเศรษฐกิจไทย
นายกฯ แสดงวิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ผลักดันเศรษฐกิจไทย-ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ยืนยันประเทศไทยพร้อมรับมือความท้าทาย เพื่อเดินหน้าเป็น “ศูนย์กลางของภูมิภาค”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ย.67) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนาแบบ one-on-one กับ น.ส.มอร์รา ฟอร์บส์ (Moira Forbes) รองประธานบริหาร Forbes Media และประธานและผู้จัดพิมพ์ ForbesWomen ในงาน Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ถึงประเด็นที่อยู่ในความสนใจระดับโลกหลากหลายประเด็น โดยมีผู้บริหารภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักลงทุนชั้นนำของโลกกว่า 400 ราย เข้าร่วมงาน ที่โรงแรม The Ritz Carlton, One Bangkok กรุงเทพฯ
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงความมุ่งมั่นของไทยที่เน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเสริมสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยมาตรการระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน และอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและการเดินทาง เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลัก เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล การเชื่อมโยง การปรับโครงสร้างหนี้ของครัวเรือนและ SME ล่าสุด Amazon, Google และ Microsoft ได้ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI ใน ประเทศไทย รวมถึงศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันนโยบาย และมาตรการ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการดำเนินการ
นอกจากนี้ ไทยพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ โดยมีที่ตั้งที่สำคัญ ที่จะเอื้ออำนวยในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ทำให้เกิดการเชื่อมโยง ระหว่างกัน และด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความเข้มแข็งรวมถึงความมั่นคงทางอาหารของประเทศ food security และมีบุคลากรที่มีความสามารถ เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งต่อการเติบโตในระยะยาว ในภูมิภาค อีกทั้งประเทศไทยยังมีความเป็นกลางและยืดหยุ่น ที่ได้รับความเชื่อมั่นในการลงทุนจากนักธุรกิจทั่วโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการเป็นจุดหมายปลายทาง ที่ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก โดย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้อำนวยความสะดวกด้านการลงทุน อย่างมาก นอกจากนี้ยังลงทุนมูลค่าสูงในโครงการด้านการศึกษาและการฝึกอบรม เพื่อพัฒนากลุ่มคนที่มีทักษะ
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่คนไทยมีทักษะฝีมือ craftsmanship ที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะวัฒนธรรมที่ยาวนาน โดยรัฐบาลมีวิสัยทัศน์ในการนำมรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ามาสร้างสรรค์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านการยกระดับทักษะและการปรับทักษะใหม่ รวมทั้งการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยในต่างประเทศผ่านนโยบายต่างประเทศเชิงรุก ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใน 14 สาขา
“ในด้านการค้าและการลงทุน ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน โดยทำงานร่วมกันในธุรกิจที่สำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เซมิคอนดักเตอร์ เศรษฐกิจดิจิทัล AI และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยรัฐบาลไทย มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ” น.ส.แพทองธาร ระบุ
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ในการลงทุนด้านการศึกษา การพัฒนาทักษะ และการดูแลสุขภาพ การสร้างเศรษฐกิจที่มีพลวัต เทคโนโลยีขั้นสูงและยั่งยืน ดึงดูดนักลงทุน และผู้ประกอบการจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงการเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง