SPCG ส่งซิก Q4 ฟื้น จ่อประมูลงานรัฐ ปี 68 COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น “KAGOSHIMA” 8 เมกฯ
SPCG ส่งซิกไตรมาส 4/67 ฟื้นตัว จ่อประมูลงานภาครัฐเพิ่ม ปักธงปี 68 เล็ง COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น “KAGOSHIMA” กำลังผลิต 8.05 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าปี 69 ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์แตะ 1 หมื่นเมกะวัตต์
นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 21 พ.ย.67 ว่าผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 91.68 ล้านบาท ลดลง 69.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 298.66 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,594 ล้านบาท ลดลง 50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 3,176.10 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ขายและบริการลดลงจากจำนวนกระแสไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่าย แม้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายปรับตัวลดลงมา
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/67 กลับมาฟื้นตัว มีความใกล้เคียงกับไตรมาส 3/67 เนื่องจากบริษัทเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นจากรายได้แต่ละส่วน โดยเฉพาะค่าพลังงานจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด โดยบริษัทมีความหวังที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับงานประมูลภาครัฐทุกโครงการที่มีการเปิดประมูล ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานภาครัฐต่อเนื่อง โดยมีการซื้อรายละเอียดประมูล เพื่อพิจารณาแต่ละโครงการ ซึ่งหากผ่านเงื่อนไขและมีศักยภาพบริษัทพร้อมที่จะยื่นประมูลทุกโครงการ
ส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์มประเทศญี่ปุ่น โดย UKUJIMA มีกำลังผลิตอยู่ที่ 480 เมกะวัตต์ เตรียมดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2569 และ KAGOSHIMA มีกำลังผลิตอยู่ที่ 8.02 เมกะวัตต์ เตรียมดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2568 ส่วนโครงการ Tottori Yonago Mega Solar Power Plant ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ ได้ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วตั้งแต่ปี 2561
นอกจากนี้บริษัทได้ประสานงานด้านเอกสารใบอนุญาตกับหน่วยงานภาครัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในเร็วๆ นี้ ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทันที ก็คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้ภายในปลายปี 2567
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางด้านคาร์บอนภายในปี 2573 และตั้งเป้าผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2593 ไม่ต่ำกว่า 10,000 เมกะวัตต์