“ญี่ปุ่น” จ่ออัดงบ 8.7 ล้านล้านบาท สู้เงินเฟ้อ-กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
“ญี่ปุ่น” เตรียมอัดงบ 39 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 8.7 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค ท่ามกลางภาวะราคาสินค้าและบริการพุ่งสูงขึ้น เนื่องมาจากเงินเยนอ่อนค่า
สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 39 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 8.7 ล้านล้านบาท ในวันนี้ (22 พ.ย.) โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคท่ามกลางภาวะราคาสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น อันเนื่องมาจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง
สำหรับมาตรการนี้ รัฐบาลของชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้คำมั่นที่จะเพิ่มรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้ของประชาชน ด้วยการขยายเพดานเงินเดือนที่ได้รับการยกเว้นภาษี หลังจากที่ยอมรับข้อเรียกร้องจากพรรคฝ่ายค้านเพื่อจะได้รับการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม
การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของอิชิบะและพรรคร่วมรัฐบาลสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นหลังจากที่อิชิบะยุบสภาไม่นาน หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.67
สมาชิกรัฐสภาระบุเสริมว่า ในการจัดหาเงินทุนสำหรับมาตรการชุดนี้ รัฐบาลของอิชิบะจะพยายามผ่านงบประมาณพิเศษมูลค่า 13.9 ล้านล้านเยน สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.2568 ในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งคาดว่าจะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะครอบคลุมเงินอุดหนุนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และการแจกเงินสดให้กับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ โดยอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง ส่งผลให้ครัวเรือนต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง อันเป็นผลมาจากการเจรจาระหว่างฝ่ายแรงงานและฝ่ายบริหารในปีนี้ ซึ่งทำให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ยสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี