NPS รุกโรงไฟฟ้าชีวมวล! กางเป้าปี 72 กำลังผลิตแตะ 815MW ดันผลงานโตยั่งยืน

NPS เดินหน้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานชีวมวลเต็มพิกัด ตั้งเป้าปี 72 กำลังผลิตแตะ 815MW สนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืน


นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS เปิดเผยผลการดำเนินงานด้านการตลาดว่าได้ผลดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 67 มีลูกค้าอุตสาหกรรมเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในสวนอุตสาหกรรม 304 เพิ่มขึ้น 11 ราย ใช้เงินลงทุนสร้างโรงงานรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดรวมลูกค้าอุตสาหกรรมทั้งหมด ณ สิ้นไตรมาส 3/67 จำนวน 140 ราย ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น 326  MW และเมื่อโรงงานของลูกค้าอุตสาหกรรมทั้งหมดเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตตามที่วางแผนไว้ จะทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจาก NPS เพิ่มขึ้นเป็น 687 MW ภายในปี 70 ซึ่งจะสูงกว่ากำลังผลิตสุทธิของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น บริษัทฯ จึงเร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล (NPP 12) กำลังผลิต 115 MW แทนโรงไฟฟ้า 6 และ 11 ที่มีกำลังผลิตรวม 70 MW โรงไฟฟ้า NPP12 จะใช้ยางไม้จากการผลิตเยื่อกระดาษของ Double A ที่เคยส่งให้โรงไฟฟ้า 6 และ 11 จำนวน 3,300 ตันแห้งต่อวัน เป็นเชื้อเพลิงและด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงกว่า จะทำให้โรงไฟฟ้า NPP12 ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าโรงไฟฟ้า 6 และ 11 ประมาณ 45 MW

โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณกลางปี 68 และเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จในปี 70 จะทำให้ NPS มีกำลังผลิตไฟฟ้า (ไม่รวมการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ หรือ Floating Solar Farm) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 700 MW เป็น 745 MW หลังจากนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนจะปรับเปลี่ยนโรงไฟฟ้า 6 และ 11 ให้สามารถใช้ไม้สับเป็นเชื้อเพลิงแทนยางไม้ภายในปี 72 ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นเป็น 815 MW

ส่วนโครงการติดตั้ง Floating Solar Farm ระยะที่ 2 ก็แล้วเสร็จเพิ่มขึ้นอีก 30 MW ตามแผนที่วางไว้ทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้าระบบเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์รวม 90 MW ในไตรมาส 3/67 ส่วนที่เหลืออีก 67 MW คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/68 และจะทำให้ NPS มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก Floating Solar Farm ทั้งหมด 157 MW

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าเต็มที่ โครงการ Green Logistics ที่นำรถบรรทุกไฟฟ้า (EV) มาใช้ขนส่งเชื้อเพลิงแทนการใช้รถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซลและ NGV เดิม โดยปัจจุบันมีรถบรรทุก EV เริ่มใช้งานแล้ว 215 คัน และมีเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 500 คัน พร้อมกับติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนและสถานีชาร์ตแบตเตอร์รี่ ตามจุดต่าง ๆ ระหว่างทางที่กำหนดรวม 8 แห่ง ภายในปี 2570 ทั้งนี้รถบรรทุก EV ทั้งหมดจะใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจาก Floating Solar Farm ของบริษัทฯ เป็นหลัก ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งเชื้อเพลิงได้กว่า 50%

ด้านการดำเนินโครงการ Floating Solar Farm และโครงการ Green Logistics ของบริษัทฯ อย่างจริงจังจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Green Houses Gas ได้อย่างยั่งยืนและสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ NPS ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบาย Net Zero Emission ของประเทศให้บรรลุเป้าหมาย ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) หรือ ESG ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างแท้จริง

Back to top button