“ส.อ.ท.” หั่นเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 67 เหลือ 1.5 ล้านคัน หลังตลาดในปท.นิวโลว์รอบ 54 เดือน

“ส.อ.ท.” เตรียมหั่นเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 67 เหลือ 1.5 ล้านคัน จากเดิม 1.7 ล้านคัน หลังตลาดในประเทศตกต่ำสุดในรอบ 54 เดือน พ่วงยอดส่งออกหดตัวต่อเนื่อง


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะปรับลดยอดการผลิตปีนี้ลดลง 2 แสนคัน จากเดิม 1.7 ล้านคัน ลงมาเหลือ 1.5 ล้านคัน แยกเป็นยอดผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงจาก 5.5 แสนคัน เป็น 4.5 แสนคัน ส่วนยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1.15 ล้านคัน เป็น 1.05 ล้านคัน

“ยอดผลิตลดลงมาก โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ใช้ในประเทศ ลดลงมากกว่า 77% เหลือไม่ถึงพันคัน เรียกว่าสถานการณ์น้อง ๆ ต้มยำกุ้ง แสดงให้เห็นชัดเลยว่าเศรษฐกิจติดลบมาก ๆ” นายสุรพงษ์ กล่าว

สำหรับส.อ.ท.แถลงยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน ต.ค.67 อยู่ที่ 84,334 คัน ลดลง 20.23% จากเดือน ต.ค.66 ขณะที่มีมูลค่าการส่งออก 77,274.86 ล้านบาท ลดลง 19.78% จากเดือน ต.ค.66 เช่นกัน เนื่องจากฐานสูงในเดือน ต.ค.66 ที่ส่งออกมากถึง 105,726 คัน

โดยในเดือน ต.ค.67 การส่งออกรถยนต์ลดลงทุกตลาด แต่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ ตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และยุโรป เนื่องจากผลกระทบจากสงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายวง อีกความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้น

“การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ขยายวงออกไป ส่วนรัสเซียกับยูเครนก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุกตลาด”

ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.67) อยู่ที่ 853,221 คัน ลดลง 8.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่ารวม 802,220.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ ส.อ.ท.ระบุว่า ยอดขายในประเทศเดือน ต.ค.อยู่ที่ 37,691 คัน ลดลง 36.08% จากเดือน ต.ค.66 จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก เนื่องจากมีสัดส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ 476,350 คัน ลดลง 26.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ยอดขายเดือนนี้ต่ำกว่าเดือนก่อน นับว่าต่ำสุดในรอบ 54 เดือน นับตั้งแต่เกิดโควิด-19”

โดยประเภท BEV เดือน ต.ค.67 มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 6,651 คัน ลดลง 32.18% จากเดือน ต.ค.66 และช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 82,304 คัน เพิ่มขึ้น 6.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีจดทะเบียนทั้งสิ้น 213,173 คัน เพิ่มขึ้น 94.70% จากปีที่แล้ว

ส่วนประเภท HEV เดือน ต.ค.67 มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 8,622 คัน เพิ่มขึ้น 30.36% จากเดือน ต.ค.66 และช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 112,819 คัน เพิ่มขึ้น 56.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีจดทะเบียนทั้งสิ้น 455,364 คัน เพิ่มขึ้น 37.670% จากปีที่แล้ว

ด้านประเภท PHEV เดือน ต.ค.67 มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 773 คัน ลดลง 8.95% จากเดือน ต.ค.66 และช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มียอดจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 8,083 คัน ลดลง 22.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีจดทะเบียนทั้งสิ้น 61,913 คัน เพิ่มขึ้น 17.53% จากปีที่แล้ว

นอกจากนี้โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ กล่าวว่า การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ คงต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากเร่งส่งเสริมการลงทุนให้เกิดขึ้นจริงตามคำขอส่งเสริมการลงทุนที่มากสุดในรอบ 10 ปี เชื่อว่าจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของไทยกลับมาเติบโตได้ปีละ 4-5% อีกครั้งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

ส่วนการจัดงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายปีนี้ ก็เชื่อว่าจะกระตุ้นยอดขายในประเทศได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งทุกครั้งจะมียอดจองเกินเป้า แต่ยังกังวลว่ายอดปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินอาจไม่เป็นไปตามยอดจอง

Back to top button