FM แย้มผลงาน Q4 สดใส “ไก่แปรรูปปรุงสุก-เนื้อไก่ชำแหละ”ออเดอร์พุ่ง มั่นใจรายได้ปีนี้โต 20%
FM แย้มแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2567 เติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกยอดขายเพิ่มในธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก และธุรกิจผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ UAE เดินหน้าลุยกลยุทธ์สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ระบุพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ความสามารถในการทำกำไรสูง มั่นใจรายได้ปี 2567 เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน
นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM ผู้นำการพัฒนาอาหารแปรรูปปรุงสุกจากเนื้อไก่ (CAV Products) ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต การผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ ยังเดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Product ) ที่มีมาร์จิ้นดีและมีการเติบโตสูง รวมทั้งการขยายกำลังการผลิต (Capacity Expansion) ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น เพิ่มประสิทธิภาพ สายการผลิตเดิมและเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก (CAV Products) และโรงเชือดและชำแหละไก่ รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และผลตอบแทนที่ดี
ด้านนายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน FM กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 จะสามารถเติบโตต่อเนื่องตามปริมาณคำสั่งซื้อ ที่มีเข้ามาต่อเนื่องและในปริมาณที่มากขึ้น จากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ ตามแผนการขยายตลาดและขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่เริ่มการส่งออกไก่ดิบในไตรมาส 4 นี้ และคาดว่าจะส่งออกในไก่แปรรูปปรุงสุกในอนาคตด้วย
“ที่ผ่านมาเราได้ขยายกำลังการผลิตเพื่อป้อนสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการบริโภคเนื้อไก่ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีจำนวนมากและตลาดมีการขยายตัวทุกปี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศในกลุ่มประเทศยุโรปได้รับการตอบรับที่ดี ขณะเดียวกัน เรายังขยายตลาดกลุ่มเอเชีย เช่น เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง และ ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น ภายใต้ความมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนและผลการดำเนินงานที่ดี ซึ่งรายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน และคาดว่าจะสามารถทำอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 2 หลัก (2 Digit)” นายสุเมธ กล่าว
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนแรก (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 5,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,108 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.45 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 4,353 ล้านบาท และคิดเป็น 95% ของรายได้ทั้งปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 5,770 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 520.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.23 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 125% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 231.51 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 233.88 ล้านบาท