คำต่อคำ “ผู้ถือหุ้น TOP” ร้อง “บอร์ดบริหาร” ไฟเขียวโครงการ “CFP” บนความเสี่ยง
เปิดข้อมูล “ผู้ถือหุ้น TOP” ร้องเรียน “DSI - ก.ล.ต.” ตรวจสอบ “บอร์ดบริหาร” อนุมัติโครงการ “CFP” บนความเสี่ยง ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเกิดความเสียหาย
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (27 พ.ย. 67) นายชัชนัย ปานเพชร ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ กล่าวโทษ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน คณะกรรมการ ผู้บริหาร TOP และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ของบริษัทฯ ฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดย นายชัชนัย ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการ CFP ซึ่งเป็นโครงการลงทุนของ TOP มูลค่า 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 159,225 ล้านบาทไทย เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความยืดหยุ่นในการรับน้ำมันดิบ และเพิ่มสัดส่วนการกลั่นน้ำมันดิบหนักนั้น
ทั้งนี้เมื่อทีม “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ตรวจสอบข้อมูลลึกลงในเอกสารที่นายชัชนัยที่ยื่นต่อ DSI และ ก.ล.ต. ปรากฏว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจ กับการอนุมัติโครงการ CFP ซึ่งเป็นการผลิตพลังงานสะอาดด้วยเทคโนโลยี LC-Max ซึ่งเป็นเจ้าแรกของโลก ทำให้ไม่มีการศึกษาและประเมินผลก่อนดำเนินโครงการ รวมถึงต้นทุนในการกลั่นน้ำมันก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ถึงความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรมได้ เนื่องจากยังไม่เคยมีโรงกลั่นใดในโลกใช้มาก่อนในรูปแบบเดียวกัน ทำให้วันที่ตัดสินใจพิจารณาอนุมัติโครงการ จึงไม่มีข้อมูลอ้างอิงจากโรงกลั่นอื่น ๆ
จากประเด็นดังกล่าว นายชัชนัยจึงมองว่า โครงการ CFP เป็นโครงการที่ไม่ควรเสี่ยงต่อการลงทุน เพราะใช้เทคโนโลยีที่ใหม่ ไม่มีผลการศึกษาและผลประกอบในเชิงพาณิชย์มาเป็นเครื่องยืนยันความเป็นไปได้ของโครงการอย่างแน่นอน ต้องถือว่า เป็นความผิดชัดเจนของกรรมการและผู้บริหารในการตัดสินใจผิด ลงทุนขนาดใหญ่ในโครงการนี้ โดยก่อนการตัดสินใจลงทุนควรจะศึกษาผลสำรวจของโครงการที่ลงทุนให้ชัดเจนรอบคอบเสียก่อน และจนถึงปัจจุบันนี้ค่อนข้างชัดเจนโครงการได้รับผลกระทบ ยากต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ
ขณะที่การคัดเลือกบริษัทให้เป็นผู้รับจ้างเหมาออกแบบวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง (EPC: Engineering, Procurement และ Construction) ของโครงการ นายชัชนัยเห็นว่า ผู้รับจ้างที่ผ่านการคัดเลือกไม่ได้มาตรฐาน มีทุนจดทะเบียนที่ต่ำไม่เหมาะสมกับมูลค่าโครงการ ไม่มีสำนักงานเป็นหลักแหล่งอยู่ในประเทศไทย หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดีไม่สามารถบังคับคดีได้ ซึ่งเป็นการบริหารงานของกรรมการและผู้บริหารงานของ TOP ที่ผิดพลาดในการดำเนินกิจการตามปกติธุระ และเสียเปรียบผู้รับเหมาอย่างมาก
นอกจากนี้ผู้รับเหมาหลัก ซึ่งไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในประเทศไทยจะไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสำเร็จลุล่วงตลอดโครงการ ซึ่งเกิดจากวิธีการคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างของ TOP โดยการแยกกลุ่ม ผู้เข้าร่วม ประมูลโครงการนี้ เป็น 2 กลุ่ม หลัก คือ กลุ่ม A และ กลุ่ม B โดย บริษัท Saipem และบริษัท Petrofac อยู่ในกลุ่ม ผู้รับเหมาหลัก กลุ่ม A และ บริษัท Samsung อยู่ในกลุ่มผู้รับเหมา กลุ่ม B แต่ต่อมาเมื่อได้รับสัญญาโครงการ ปรากฏว่า บริษัท Saipem และ บริษัท Petrofac มีปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้เหลือเพียงบริษัท Samsung เท่านั้น ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการ CFP ของ TOP ในเวลานี้ นายชัชนัยจึงเห็นว่า มีที่มาจากการบริหารงานของคณะกรรมการบริษัทฯ ที่นายชัชนัยมองว่า ขาดวิสัยทัศน์ และความรอบคอบในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงการ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นทุกมิติ จนเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายกับ TOP และผู้รับเหมาช่วงไม่ได้รับชำระค่าตอบแทนตามสัญญาจากบริษัทผู้รับเหมาหลักที่ถูกคัดเลือกมา ทั้งที่บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกเหล่านั้นได้รับเงินจาก TOP ไปแล้ว เป็นเหตุทำให้ ผู้รับเหมาช่วงตัดสินใจระงับการดำเนินงานก่อสร้าง โครงการจึงไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ทำให้ TOP ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงการที่มีมูลค่าเกือบ 170,000 ล้านบาท ไม่สามารถสร้างเสร็จได้ตามกำหนดในเดือน กุมภาพันธ์ 2568 และยากต่อการเยียวยาและแก้ไขได้ในภายหลัง
หากย้อนกลับไป โครงการ CFP ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) ครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 และให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 วันที่ 27 สิงหาคม 2561 โดยในขณะนั้นมี นายอธิคม เติบศิริ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ TOP
โดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารควบคุมกระบวนการผลิตหลัก โครงการ CFP เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 ในสมัยที่ นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ TOP