THAI จดทะเบียนเพิ่มทุน 2.3 แสนล้าน สำเร็จตามแผนฟื้นฟู

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง แจ้งการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทจากการแปลงหนี้เป็นทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการโดยระบุว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565

และต่อมาที่ประชุมคณะผู้บริหารแผน ครั้งที่ 44/2565 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 314,996,882,480 บาท จากเดิมจำนวน 21,827,719,170 บาท เป็นจำนวน 336,824,601,650 บาทโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 31,499,688,248 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท เพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนและการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามข้อ 5.6.3 และข้อ 5.6.4 ของแผนฟูกิจการนั้น

ล่าสุดบริษัทฯขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น 20,989,446,278 หุ้น ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการจากการแปลงหนี้เป็นทุนตามข้อ 5.6.3 ของแผนฟื้นฟูกิจการ ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น ซึ่งประกอบไปด้วย

(ก) การแปลงหนี้เป็นทุนซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Mandatory Conversion) ตามกรอบที่กำหนดไว้ในข้อ 5.6.3 (ข) ของแผนฟื้นฟูกิจการ

(ข) การใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนโดยสมัครใจของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (Voluntary Conversion) ตามกรอบที่กำหนดไว้ในข้อ 5.6.3 (ก) ของแผนฟื้นฟูกิจการ และ (ค) การใช้สิทธิแปลงดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นทุนโดยสมัครใจของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ตามกรอบที่กำหนดไว้ในข้อ 5.6.3 (ค) ของแผนฟื้นฟูกิจการได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567

โดยภายหลังการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ และการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วจากการแปลงหนี้เป็นทุนตามข้อ 5.6.3 ของแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 231,722,181,950 บาท และมีหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดจำนวน 23,172,218,195 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท

ทั้งนี้ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ตามข้อ 5.6.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าวแล้วเสร็จ และบริษัทฯ ได้มีการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บริษัทฯจะแจ้งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวให้ทราบต่อไป