PRINC ยุติซื้อรพ.เครือ “มาย ฮอสพิทอล” ไร้กระทบธุรกิจ มั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวด์
PRINC ยุติซื้อรพ. เครือ “มาย ฮอสพิทอล” จำนวน 4 บริษัท หลังทำธุรกรรมไม่ผ่านตามเวลาที่กำหนด ไร้กระทบเป้ารายได้ มั่นใจพลิกทำกำไรปีนี้ พร้อมเดินหน้าขยายเตียง-ศูนย์รักษาโรคซับซ้อน
นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการและรองประธานคณะกรรมการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนามเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์” รายงานข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่าบริษัทฯ ได้ยกเลิกการเข้าทำรายการ เข้าซื้อหุ้นสามัญและรับโอนภาระหนี้สินเงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยบริษัทย่อยจำนวน 4 บริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนรวม 3 แห่ง จาก บริษัทมาย ฮอสพิทอล จำกัด เนื่องจากการปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนการซื้อขาย ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา)
นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการและรองประธานคณะกรรมการ PRINC กล่าวถึงประเด็นการยกเลิกการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว ระบุไม่ส่งผลต่อแผนงานของบริษัทและไม่กระทบงบการเงินงวดปีปัจจุบันของบริษัทฯแต่อย่างใด โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลัก ได้แก่ ผลการดำเนินของโรงพยาบาลในเครือปัจจุบันที่มีทั้งหมด 14 แห่ง ใน 11 จังหวัด ที่ยังคงโมเมนตัมการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และยังมีโรงพยาบาลใหม่อีก 1 แห่งที่จะพร้อมเปิดให้บริการชาวมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวสปป.ลาว ในเดือนธันวาคม 2567 ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ มุกดาหาร รวมทั้งการลงทุนในศูนย์การรักษาโรคซับซ้อนเพิ่มเติม คาดรับรู้รายได้ในปี 2567 นี้เป็นต้นไป
“PRINC ยืนยันว่าไม่กระทบกับการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 แต่อย่างใด ในทางกลับกันมีแนวโน้มที่จะเห็นผลประกอบการในภาพรวมที่เติบโตอันเนื่องมาจากผลการดำเนินของรพ.ในเครือทุกแห่งที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ PRINC จะเริ่มเปิดดำเนินการโรงพยาบาลใหม่ 1 แห่ง รวมถึงจะเริ่มรับรู้รายได้จากศูนย์การรักษาโรคยากซับซ้อนในโรงพยาบาลในเครืออีกหลายแห่ง เช่น ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษ, การเปิดห้องปฏิบัติการ Cath Lab ศูนย์รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ และรพ.พริ้นซ์ ปากน้ำโพ ซึ่งจะช่วยผลักดัน PRINC ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง“ นพ.กฤตวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ ยังคงแผนขยายธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจเฮลท์แคร์ต่อเนื่องจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมุ่งเน้นการขยายการลงทุน ทั้งการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลตามแผนงาน ซึ่งมีทั้งการเข้าซื้อกิจการและการสร้างโรงพยาบาลใหม่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพอีกหลายแห่ง รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาบาลในเครือหลายแห่ง ที่มีอัตราการครองเตียง (Bed Occupancy Rate) ในระดับสูงเพื่อยกระดับการให้บริการ และมีแผนการขยายการลงทุนแล้วในปี 2568 และการแสวงหาโอกาสลงทุนในธุรกิจเฮลท์แคร์ที่มีศักยภาพในด้านอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตและศักยภาพให้แก่กลุ่มเพิ่มเติม
“แม้จะมีปัจจัยความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน บริษัทยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการขยายจำนวนเตียงให้เติบโตเฉลี่ยราว 15% ต่อปี ในระยะเวลา 5 ปี จากปัจจุบัน 1,251 เตียง รองรับขยายตัวความต้องการรักษาโรคยากซับซ้อนโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่มีความต้องการสูงและยังเป็นการร่วมดูแลกับภาครัฐ สร้างการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่ดีในพื้นที่ต่างจังหวัด สอดคล้องกับปณิธานของเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ที่มุ่งสร้างคนที่มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ เพื่อร่วมดูแลคน ชุมชนและสังคมต่อไป” นพ.กฤตวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ PRINC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนามเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์“ มีการดำเนินงานโรงพยาบาลทั้งหมด 15 แห่งใน 11 จังหวัด ประกอบด้วย โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ, โรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน, โรงพยาบาลศิริเวช ลำพูน, โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1, โรงพยาบาล พริ้นซ์ปากน้ำโพ 2, โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี, โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี, โรงพยาบาลพริ้นซ์ สกลนคร, โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ,
รวมถึง โรงพยาบาลวิรัชศิลป์ ชุมพร, โรงพยาบาลพิษณุเวช, โรงพยาบาลพิษณุเวช พิจิตร, โรงพยาบาลพิษณุเวช อุตรดิตถ์, โรงพยาบาลรวมแพทย์พิษณุโลก และล่าสุด โรงพยาบาลพริ้นซ์ มุกดาหาร ที่เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 12 ธ.ค. นี้ สามารถรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ www.principalcapital.co.th