ไม่รอด! นครบาลรวบตัว สะใภ้ “หมอบุญ” ฐานร่วมกันฉ้อโกง 7.5 พันล้าน

ความคืบหน้าคดี นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ กับพวกรวม 9 คน ในคดีฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน คดีเกี่ยวกับเช็ค หลอกให้ร่วมลงทุนใน 5 โครงการ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 7,500 ล้านบาท

ล่าสุดวานนี้ (2 ธ.ค.67) พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทสยาม บุญสม รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีดังกล่าว  ก่อนที่ตำรวจนครบาลได้นำหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับ “หมอบุญ” และพวก 2 จุด คือ สำนักงานย่านพระราม 9 ตรวจยึดสิ่งของสำคัญ เป็นเอกสาร 15 รายการ อาทิ สำเนาโฉนดที่ดิน, เอกสารโฆษณาโรงพยาบาล, เอกสารการประชุมต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อนำมาตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีหรือไม่  อย่างไรก็ตาม ตู้เซฟที่ตรวจยึดมาจากบ้านของ “หมอบุญ” จากการตรวจสอบภายใน เมื่อเปิดออกมาไม่พบสิ่งของหรือทรัพย์สินที่มีค่าใด ๆ

พร้อมกันนี้ มีออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน คือ นางสาวณวรา วนาสิน หรือ กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ของหมอบุญ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5725/2567 ลงวันที่ 27 พ.ย.67 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งจับตัวได้เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลอาญา

ส่วนการติดตามจับกุมตัว “หมอบุญ” นั้น ขณะนี้ตำรวจประสานกับตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล (Interpol)  เพื่อทำการออกหมายแดง ติดตามจับกุมและประสานตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

สำหรับยอดความเสียหายล่าสุด มีผู้เสียหาย 300 คน ความเสียหายรวม 9,168,142,813 บาท เงินของผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวง ได้สั่งการ บก.สส.บช.น. ติดตามสืบสวนจากบัญชีธนาคารของกลุ่มผู้ต้องหา แนวทางการสืบสวนทราบว่ามีบัญชีธนาคารที่อยู่ในประเทศไทยประมาณ 20 บัญชี และบัญชีธนาคารต่างประเทศ จำนวน อีกประมาณ 5 บัญชี เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยจะมีการติดตามทรัพย์สินเพื่อมาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายต่อไป

จากนี้ตำรวจจะรวมรวมพยานหลักฐาน เพื่อยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อเข้าค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของ “หมอบุญ” และกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมและตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด อีกทั้งอยู่ระหว่างยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยพบว่ามีผู้เข้าข่ายต้องขอหมายจับเพิ่มอีกจำนวน 2 ราย