นายกฯ หารือ ซีอีโอ NVIDIA ย้ำไทยมีศักยภาพพัฒนา AI เพิ่มฝีมือแรงงาน
นายกฯ “แพทองธาร” หารือ ซีอีโอ NVIDIA บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ ย้ำโอกาสสำคัญพัฒนา AI ในไทย ผลักดันเป็นผู้นำด้าน AI ระดับภูมิภาคและโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค.67) เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบนายเจนเซน หวง (Jensen Huang) ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA ผู้ผลิตชิป AI ระดับโลก
โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่ได้พบกับซีอีโอ NVIDIA ซึ่งบริษัท NVIDIA ถือเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งการพบหารือครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความร่วมมือ และแสวงหาความร่วมมือในอนาคต เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยินดีกับความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) และ NVIDIA ด้วย
ขณะที่ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA กล่าวว่า การเดินทางมาไทยครั้งนี้ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้บริษัทฯ มีความร่วมมือและให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพ (Startup) ในไทยกว่า 50 ราย และมหาวิทยาลัยไทยอีกกว่า 40 แห่ง โดยหวังว่าจะมีส่วนช่วยจุดประกายและเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนา AI ในไทยมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน โดยเห็นตรงกันว่า AI มีความสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและความมั่นคงของประเทศ ช่วยให้ประเทศสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้างงาน และปกป้องประชาชน ซึ่งบริษัท NVIDIA พร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ระดับโลก รวมทั้งแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อสนับสนุนโครงการด้าน AI ของไทย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA เห็นถึงความสำคัญของบุคลากรด้าน AI ที่ถือเป็นหัวใจของอุตสาหกรรม AI การลงทุนด้านการศึกษาและการฝึกอบรมด้าน AI จะช่วยให้ไทยพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะให้สามารถขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ได้ โดย NVIDIA พร้อมสำรวจโอกาสความร่วมมือในด้านนี้
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ไทยให้ความสำคัญกับด้านการศึกษาและการพัฒนาทักษะ เพื่อนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่ให้ AI เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี พร้อมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้หารือเพื่อแสวงหาความร่วมมืออย่างลึกซึ้งต่อไป
ขณะที่ นายเจนเซน หวง เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสามารถของไทยในการพัฒนา AI โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานข้อมูล ทรัพยากรบุคคล และเครือข่ายธุรกิจภายในประเทศ ให้สอดคล้องกับภาษาถิ่น วัฒนธรรม และแนวปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น การดูแลสุขภาพ เกษตรกรรมอัจฉริยะ สำหรับขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และเห็นว่า ไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถจำนวนมาก จึงหวังว่าจะใช้โอกาสนี้เดินหน้าความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว