ALPHAX ทุ่ม 795 ล้านบาท ซื้อโรงไฟฟ้าน้ำเงียบ 2C กำลังผลิต 14.51 เมกฯ
ALPHAX ประกาศบิ๊กดีล ทุ่ม 795 ล้านบาท ซื้อโรงไฟฟ้าน้ำเงียบ 2C ขนาดกำลังการผลิต 14.51 MW พร้อมเซ็น MOA การไฟฟ้าลาว ศึกษาโปรเจคโซลาร์ฟาร์ม 500 MW คาดได้ข้อสรุปภายใน 1-2 ปี ตั้งเป้าผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนชั้นนำภูมิภาคเอเชีย
นายกำพล ทรวงบูรณกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 3 ธ.ค.67 มีมติอนุมัติให้บริษัท อัลฟ่า พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ (ลาว) จำกัด (APDL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อัลฟ่า พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท น้ำเงียบ 2 ซี ไฮโดรพาวเวอร์ จำกัด (NN2C) จำนวน 1,761,297 หุ้น ในราคาซื้อขายรวม 22,800,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 795 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนของ NN2C
“การเข้าไปซื้อหุ้นของ NN2C ครั้งนี้ เนื่องจาก ALPHAX เห็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ และอัตราผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวทั้งในรูปของรายได้และกำไรในงบกำไรขาดทุนรวมของบริษัท และรายได้เงินปันผลในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการของบริษัท” นายกำพล กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ในด้านการแข่งขันและขยายการเติบโตในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งถือเป็นนโยบายการลงทุนที่สำคัญ โดยภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ จะทำให้ ALPHAX มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เพิ่มขึ้นเป็นกำลังการผลิตรวม 29.51 MW ซึ่งเป็นผลมาจากซื้อกิจการในครั้งนี้ของ NN2C ที่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่มีกำลังการผลิต 14.51 MW
โดยมีระยะเวลาสัมปทานอายุ 40 ปี (สิ้นสุด 24 เม.ย.2605) และสัมปทานดังกล่าวสามารถต่ออายุได้ตามกฎหมายของสปป.ลาว และการซื้อกิจการของบริษัท น้ำฮุง1 ไฮโดรพาวเวอร์ จำกัด (NH1) เมื่อไตรมาสที่ 1 ของปี 67 ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งมีกำลังการผลิต 15.00 MW
ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากการไฟฟ้าลาว (Electricite Du Laos : EDL) ให้ APDL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังติดตั้ง 500 MW โดยได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ (MOA) ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาภายในประมาณ 1-2 ปีในการศึกษาและพัฒนาโครงการ โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวจะช่วยผลักดันผลดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน และช่วยตอบโจทย์เป้าหมายระยะยาวของบริษัทฯที่ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาค
สำหรับผลประกอบการของ ALPHAX ในงวด 9 เดือน ปี 67 บริษัทฯมีกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรสุทธิกว่า 280 ล้านบาท พร้อมทั้งมีความมั่นคงด้านฐานะทางการเงินโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ที่ต่ำเพียง 0.06 เท่า รวมถึงยังมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดย ณ วันที่ 30 ก.ย.67 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคงเหลืออยู่มากกว่า 4,000 ล้านบาท ทำให้มีความพร้อมในการขยายกิจการโดยเฉพาะในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงสูง และสามารถสร้างกระแสเงินสดให้กิจการได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ALPHAX กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แผนระยะยาวในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้าบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายในการเติบโตให้เป็นไปอย่างก้าวกระโดด โดยได้มีการศึกษา เพื่อหาทางเลือกในการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุดโดยที่สามารถควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยมีการศึกษาโครงการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และโรงงานผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ในรูปแบบต่างๆ เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ ฯลฯ