OPEC เพิ่มการผลิตน้ำมัน 1.8 แสนบาร์เรล เดือนพ.ย. หลังลิเบียฟื้นตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (4 ธ.ค.67) สำนักข่าว “รอยเตอร์ส” รายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพ.ย. เนื่องจากการผลิตน้ำมันในประเทศลิเบียฟื้นตัวขึ้น หลังจากวิกฤตทางการเมืองคลี่คลายลง โดยผลสำรวจที่ทาง “รอยเตอร์ส” จัดทำระบุว่า กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันในปริมาณ 26.51 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ย.ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1.8 แสนบาร์เรลต่อวัน จากระดับของเดือนต.ค.

ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อติดตามภาวะอุปทานในตลาดน้ำมันและผลสำรวจดังกล่าวได้จากข้อมูลด้านการขนส่งที่รายงานโดยแหล่งข่าวในต่างประเทศ, ข้อมูลการไหลเวียนของตลาดน้ำมัน ซึ่งรวบรวมโดยแอลเอสอีจี (LSEG), ข้อมูลจากบริษัทที่ติดตามการไหลเวียนของตลาดน้ำมัน เช่น บริษัท ปิโตร-โลจิสติกส์ (Petro-Logistics) และเคปเลอร์ (Kpler) รวมทั้งข้อมูลที่เผยแพร่โดยแหล่งข่าวในบริษัทน้ำมัน, กลุ่ม OPEC และบริษัทที่ปรึกษา

สำหรับ อัตราการผลิตน้ำมันของลิเบียฟื้นตัวขึ้น หลังจากสถานการณ์การเมืองในประเทศคลี่คลายลง ซึ่งองค์การสหประชาชาติ หรือ UN เปิดเผยว่าตัวแทนของรัฐบาลลิเบียฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางลิเบีย ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญของการยุติข้อพิพาทที่ว่า รัฐบาลของฝั่งใดควรมีอำนาจในการควบคุมธนาคารกลางและรายได้จากน้ำมัน หลังจากที่ข้อพิพาทดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมันของลิเบีย

อย่างไรก็ดี สมาชิกกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร หรือ “โอเปกพลัส” จะประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า กลุ่มโอเปกพลัส มีแนวโน้มที่จะประกาศขยายเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงสิ้นไตรมาส 1/68 โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยพยุงราคาน้ำมัน จากเดิมก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะเริ่มยุติการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันสิ้นเดือนธ.ค.67