ชัดแล้ว! “นอท กองสลากพลัส” ฮุบบิ๊กล็อต EE ก้อนใหญ่ 57.81% โดดขึ้นผู้ถือหุ้นเบอร์ 1
“นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์” เก็บหุ้น EE จำนวน 1.6 พันล้านหุ้น ส่งผลให้ถือหุ้น 57 % ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งเข้าเงื่อนไขต้องทำ "Tender Offer"
นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ได้รับแจ้งจาก นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” ซึ่งได้ทำการซื้อหุ้น EE ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2567 จำนวน 1,607,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 57.81% ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงไป
โดยหลังจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 11 ราย เทขายหุ้น EE ออกมาได้แก่ 1) นางสาวอรอร อัครเศรณี เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 635,550,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.86%, 2.) นายปกรณ์ มงคลธาดา เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 193,531,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.96% 3) นางสาวพรรณทิพา เนติพัฒน์ เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 136,400,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.91 % 4) นายสุเมธ เศษธะพานิช เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 133,400,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.80 % 5) นายสุภชัย สถิตวิมล เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 125,600,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.52 % 6) นางสาวศุภลักษณ์ เศษธะพานิช เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 76,200,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.74 %
7) นายสิทธิพงษ์ เนติพัฒน์ เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 55,805,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.01% 8) นางสาวกัญจนารัศม์ วงศ์พันธุ์ เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 48,652,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.75 % 9) นางสาวอริสษา สิงห์ซอม เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 32,612,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.17% 10) นางสาวสุรัสวดี เกตุทัต เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 29,200,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.05% และ 11) นางกมลรัตน์ ชาญสง่าเวช เทขายหุ้นทั้งหมดจำนวน 29,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.04%
ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 11 ราย หลังจากทำรายการเทขายหุ้นผ่าน Big lot ดังกล่าว ทำให้ไม่มีการถือหุ้นใน EE ต่อไป
ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมที่ยังคงเหลือถือหุ้นมีทั้งหมด 5 ราย ได้แก่ 1) นายฉาย บุนนาค ถือหุ้นทั้งหมดจำนวน 124,276,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.47% 2) นางฐานุตรา พิพัฒน์วิไลกุล ถือหุ้นจำนวน 90,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.24 % 3) นายภควันต์ วงษ์โอภาสี ถือหุ้นจำนวน 89,044,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.20% 4) บริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู จำกัด ( มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 75,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.72 % และ 5) นายกฤษฎา พฤทธิ์ภัทร ถือหุ้นจำนวน 61,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.19%
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำรายการมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยส่งผลให้ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เข้าถือหุ้นจำนวน 1,607,000,000 หุ้น คิดเป็น 57.81% ของหุ้นชำระแล้วทั้งหมด ขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 1
ทั้งนี้ จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัทฯ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่นายพันธ์ธวัช ถือหุ้นในบริษัทฯ เกินกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ นั้น มีผลทำให้นายพันธ์ธวัช มีหน้าที่ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และ วิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศ ทจ. 12/2554”) โดยราคาทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการจะเท่ากับ 0.14 บาทต่อหุ้น
ดังนั้น บริษัทจะดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย รวมถึงการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของนายพันธ์ธวัช ในครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งข่าวให้ผู้ถือหุ้นทราบเพิ่มเติมโดยเร็ว เมื่อบริษัทฯ ได้รับรายละเอียดของคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากนายพันธ์ธวัช รวมถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจมีขึ้นกับนโยบายการดำเนินธุรกิจ แนวทางและโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ต่อไป