จับตา! “นอท สลากพลัส” ปรับโฉม EE หลังนั่งแท่นบริหาร พ่วงเพิ่มทุน 516 ล. ลุยธุรกิจ Tech
บอร์ด EE เคาะลด-เพิ่มทุนเป็น 7.69 พันล้านบาท จากเดิม 4.97 พันล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 2.72 พันล้านหุ้น เสนอขาย PP จำนวน 5 ราย ราคา 0.19 บาท เพื่อนำเงินลุยธุรกิจ Tech และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในปี 68 โดยกำหนดวันจองซื้อ-ชำระค่าหุ้น 25 เม.ย.2568-30 เม.ย.2568 พร้อมเคาะเปลี่ยนแปลงกรรมการ-เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เตรียมชงผู้ถือหุ้นไฟเขียว 7 ก.พ.2568
นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 มีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 2,780 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 7,750 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 4,970 ล้านบาท โดยการตัดหุ้นสามัญในส่วนที่ยังมิได้มีการออกจำหน่ายจำนวน 2,780 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 2,720 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 4,970 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 7,690 ล้านบาท โดยการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 2,720 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัมีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 2,720 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 49.12 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.19 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 516.80 ล้านบาทเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด(PP) จำนวน 5 ราย ได้แก่ 1.นายคีรีภัทร์ ศุภสินประภาพงศ์ จำนวน 1,038,142,857 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.88% ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน, 2.นายไพบูลย์ ทรงเพ็ชรมงคล จำนวน 541,181,818 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.84% ของทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน, 3.นายวิชิต จิรัฐิติเจริญ จำนวน 407,071,429 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.40% ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน, 4.นายจักรวิตร ภัทรจินดา จำนวน 383,603,896 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.97% ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน,5.นางสาวสุกัญญา ทิพย์มณี จำนวน 350,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.36% ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน โดยกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นวันที่ 25 เม.ย. 2568 ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568
โดยการเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทฯจะนำเงินทุนที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามรายการ Private Placement ไปใช้เพื่อลงทุนในธุรกิจ Tech ประมาณ 467-517 ล้านบาท และที่เหลือใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯไม่เกิน 50 ล้านบาท ภายในปี 2568
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติรับทราบการลาออกของกรรมการ ได้แก่ นางสาวสุวิชา แก้วฟ้าเจริญ และอนุมัติการแต่งตั้งพลเอกพุทธวัตร์ ยุทธนาวชพงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบแทนที่นางสาวสุวิชา แก้วฟ้าเจริญ และมีมติอนุมัติการแต่งตั้งนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เป็นกรรมการใหม่แทนตำแหน่งกรรมการที่ว่างอยู่
อีกทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติรับทราบการลาออกของกรรมการ ได้แก่ นายพิพัทธ์ ชนะสงคราม นายธนะชัย สันติชัยกูล และนายประพัฒน์ ยอขันธ์ อนุมัติการแต่งตั้งกรรมการแทนที่กรรมการที่ลาออกก่อนครบวาระดังกล่าว ได้แก่ (1) ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระแทนที่ นายพิพัทธ์ ชนะสงคราม (2) นางสาว อภิญญา ดีล้อม ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการแทนที่ นายธนะชัย สันติชัยกูล และ (3) นายภูริภัทร์ เพชรดี ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการแทนที่ นายประพัฒน์ ยอขันธ์ และอนุมัติการแต่งตั้งนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการที่ว่างลงจากการลาออกของนายธนะชัย สันติชัยกูล โดยโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบจะเปลี่ยนแปลงเป็นดังนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำส่งแบบแจ้งรายชื่อและขอบเขตการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบ (แบบ F24-1) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อเผยแพร่ต่อผู้ลงทุน ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่มีการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการ ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทฯจากเดิม“นายอิศรา เรืองสุขอุดม นายประพัฒน์ ยอขันธ์ กรรมการสองคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท” เปลี่ยนเป็น “นายอิศรา เรืองสุขอุดม นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ นายภูริภัทร์ เพชรดี กรรมการสองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท”
อีกทั้งมีมติอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมจำนวน 2 ท่าน ได้แก่ นางสาวชวัลพร นิรันดร์สวัสดิ์ และ นายศิริพร สุวรรณพิทักษ์ และให้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติม คณะกรรมการบริษัทจะประกอบไปด้วยกรรมการจำนวน 9 ท่านดังนี้
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการแต่งตั้งบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำรายการ Private Placement เพื่อประกอบการพิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
อีกทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเปลี่ยนชื่อของบริษัทฯ และการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ และข้อบังคับของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อของบริษัทฯ โดยมีรายละเอียดตามที่ระบุด้านล่างนี้ และให้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ
โดยจะเปลี่ยนชื่อของบริษัทฯจากเดิมชื่อภาษาไทย “บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน)” และชื่อภาษาอังกฤษ “Eternal Energy Public Company Limited” เปลี่ยนเป็น ชื่อภาษาไทย “บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน)” และชื่อภาษาอังกฤษ “TECHLEAD NPN PUBLIC COMPANY LIMITED”
ทั้งนี้ เนื่องจากวาระที่ 2 ถึงวาระที่ 5 เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน ดังนั้น ในการพิจารณาอนุมัติวาระที่ 2 ถึงวาระที่ 5 จะถือเป็นเงื่อนไขซึ่งกันและกัน โดยหากเรื่องในวาระใดวาระหนึ่งไม่ได้รับการอนุมัติ จะถือว่าเรื่องอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติแล้วเป็นอันยกเลิก และจะไม่มีการพิจารณาในวาระอื่น ๆ ต่อไป โดยถือว่า การพิจารณาอนุมัติในเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568