CGSI มองกรอบ SET วันนี้ 1,440-1,460 จุด ชู 2 หุ้นเด่น STECON-SCB

CGSI มองกรอบ SET วันนี้ 1,440-1,460 จุด ชู 2 หุ้นเด่น STECON-SCB จับตาความคืบหน้าการแจกเงินดิจิทัล เฟส สองและแผนการปฏิรูปภาษีของไทย


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI  ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (6 ธ.ค.67)ว่าคาด SET Index จะแกว่งในกรอบ 1,440-1,460 จุด หลังตอบรับปัจจัยบวกสนับสนุนในประเทศ ทั้งการเยือนประเทศไทยของ นายเจนเซน หวง ซีอีโอของ NVIDIA และ ความคืบหน้าการแจกเงินดิจิทัล เฟส สอง และ แผนการปฏิรูปภาษีของไทย ซึ่งตลาดมองว่าจะช่วยสนับสนุนเม็ดเงินให้ไหลเข้าตลาดทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยล่าสุด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย. 67 เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน   ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.8% โดย ตัวเลขเงินเฟ้อ 11 เดือน ของปี 67 ขยายตัว 0.3% YTD และ คาดการณ์การเติบโตของเงินเฟ้อปี 67 ไว้ที่ 0.5% , คาดการณ์การเติบโตของเงินเฟ้อปี 2025 ไว้ที่ 1.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และ มองตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ออกมาเป็นกลางต่อบรรยากาศการลงทุน

ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.67 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฐานต่ำจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค.67 และ ปี 68 การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะช่วยสนับสนุนให้เงินเฟ้อของอยู่ที่ 1.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรือ ตรงกับเป้าหมายค่ากลางเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 1-3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ด้านดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ BOT จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% ในสองสัปดาห์หน้าหรือการประชุมรอบสุดท้ายของปี 67 และ ลดดอกเบี้ย 25 bp หรือ ลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง มาที่ 2.00% ในปี 68

นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันกลับมาเป็นปัจจัยต่างประเทศอีกครั้ง จาก สถานการณ์ในเกาหลี โดย พรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นญัตติไต่สวนถอดถอดประธานาธิบดี หลังประกาศกฎอัยการศึก กระทบ จิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาค อย่างไรก็ดี หากดูสัดส่วนการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศไทยและเกาหลีใต้นั้นยังไม่ได้สูงมากนัก ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 4 ปี 67 จึงจำกัดและประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ 35 ล้านคน และ ปี 68 ที่จำนวน 38 ล้านคน

ทางด้านสินทรัพย์สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบ หลัง โอเปกพลัส เลื่อนการเริ่มต้นเพิ่มการผลิตน้ำมันใหม่ออกไปเป็นเวลา 3 เดือน โดยแทนที่จะเพิ่มการผลิต 1.8 แสนบาร์เรลต่อวันเป็นเดือนเม.ย.เนื่องจากตลาดน้ำมันกำลังเผชิญกับอุปทานส่วนเกิน และ ราคา Bitcoin ทะลุ 1 แสนดอลลาร์

ติดตามเงินรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตรกร (Non-farm payrolls) (NFP) (คืนวันศุกร์นี้) โดย ตลาดคาด + 2.18 แสนตำแหน่ง / ค่าแรงต่อชม.ที่ 0.3% mom และ อัตราการว่างงานของสหรัฐฯที่ 4.1%

ส่วนหุ้นแนะนำได้แก่ 

บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON คาดจะสามารถคว้างานก่อสร้างมูลค่า 4 หมื่นล้านบาทในไตรมาส4/67 ซึ่งจะส่งผลให้ยอด backlog ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาทในสิ้นปี 67 โดยผู้บริหารได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายใหม่ของ STECON ในปี 73 โดยบริษัทตั้งเป้าทำรายได้รวม 4.5 หมื่นล้านบาทในปี 73 หรือเพิ่มขึ้นจากประมาณ 3 หมื่นล้านบาทในปี 67 ซึ่งจะเท่ากับอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% CAGR (Take profit : 8.55 / Stop loss : 8.20)

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB  ปรับประมาณการ EPS ในปี 67-69 ขึ้น 1.8-10.8% เนื่องจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลง และคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของ SCB จะเพิ่มขึ้น 5-21bp เป็น 3.98-4.03% ปรับสมมติฐานอัตราการสำรองหนี้สูญลงมาอยู่ที่ 178- 188bp ในปี 67-69 หากอิงตามประมาณการใหม่ ธนาคารจะมี ROE เพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในปี 67 เป็น 9.4-9.9% ในปี 68-69 ขณะที่ฝ่ายวิจัยยังคาดว่า SCB จะมีอัตราการจ่ายเงินปันผล สูงที่ 80% ในปี 67-69

Back to top button