SET สัปดาห์นี้ลุ้น “ไปต่อ” จับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-แถลงผลงานรัฐรอบ 3 เดือน

“บล.กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ “ไปต่อ” จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล แถลงผลงานรัฐรอบ 3 เดือน วันที่ 12 ธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. โบรกแนะหุ้นเด่น AOT- KBANK-SCB พร้อมมองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวแนวรับ 1,440 - 1,435 จุด แนวต้าน 1,471-1,487 จุด


“สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (9 ต.ค. – 13 ธ.ค.67) โดยเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งประเมินตลาดหุ้นไทย “Up” ซึ่งให้แนวรับ 1,440 – 1,435 จุด แนวต้าน 1,471-1,487 จุด โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ที่แนะนำให้นักลงทุนติดตาม ดังนี้

วันที่ 9 ธ.ค. ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือน พ.ย. 67 ทั้งนี้ ไม่มีคาดการณ์ดัชนี ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.  ดัชนีปรัชตัวอยู่ที่ 56.0 จุด พร้อมกันนี้ ในวันที่ 11 ธ.ค. แนะนำนักลงทุนติดตามการแถลงมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน ครอบคลุม หนี้ SMEs, หนี้บ้าน และหนี้รถยนต์  พร้อมการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. และการแถลงผลงาน 3 เดือน ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 12 ธ.ค.

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index คือ วันที่ 10 ธ.ค. ประเทศจีนเตรียมประกาศตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ ประจำเดือน พ.ย. ทั้งนี้ คาดการณ์ภาคส่งออก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่หากเปรียบเทียบกับเดือน ต.ค. ตัวเลขภาคส่งออกจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนตัวเลขนำเข้าคาดการณ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเปรียบเทียบกับเดือน ต.ค. ที่ลดลง 2.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ตัวเลขดุลการค้าคาดการณ์เกินดุลอยู่ที่ 92 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับตัวเลขเดือน ต.ค. ที่เกินดุลอยู่ที่ 95.72 พันล้านเหรียญ อีกทั้งปัจจัยที่จ้องติดตามระหว่างวันที่ 11-12 ธ.ค. 67 จะมีการประชุมประจำปีด้านเศรษฐกิจกลางของจีน China Economic Work Conference (CEWC)

ขณะที่ ในฝั่งสหรัฐฯ วันที่ 11 ธ.ค. ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ประจำเดือน พ.ย. คาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไป ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขเดือน ต.ค. อยู่ที่ 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน คาดการณ์ เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า เท่าเดือนก่อน

ส่วนในวันที่ 12 ธ.ค. ติดตามการประชุม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 3.25% สู่ระดับ 3.0%

โดยจากปัจจัยต่างๆ ที่นักลงทุนต้องติดตามนั้น ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “กลยุทธ์การลงทุน” หลังประเมินสัปดาห์หน้า “Up” ประเมินแรงขับเคลื่อนมาจากภายใน จากความชัดเจนการเดินหน้ามาตรการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ อาทิ มาตรการแก้หนี้ครัวเรือน รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่น่าจะมีการอนุมัติเพิ่มเติม อาทิ กองทุนหมู่บ้าน, Digital Wallet เฟส 2 รวมถึงการซื้อสินค้า บริการ ลดหย่อนภาษี

นอกจากนี้ คาดการณ์เม็ดเงินลงทุนระยะยาวในประเทศจากการซื้อกองทุน ThaiESG เริ่มทยอยเข้า มาสนับสนุนตลาด โดยแนะนำหุ้น คือ กลุ่ม Domestic อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก และเช่าซื้อ ผสาน หุ้นในธีมสร้าง S Curve ใหม่กลาง-ยาว Infra Tech อาทิ ไฟฟ้าและสื่อสาร ขณะที่กลุ่ม Entertainment Complex แนะนำหุ้นท่องเที่ยว-ภาคบริการ โดยมีหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ ดังนี้

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT โดยฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวประจำเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผนวกกับ Entertainment Complex มีความคืบหน้า โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 64.50 บาท

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 180 บาท  และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 135 บาท  โดยทั้ง 2 หุ้น ฝ่ายนักวิเคราะห์คาการณ์ได้รับปัจจัยสนับสนุนภายในฟื้นตัว และมี Upside คุณภาพหนี้จากมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนติดตามทิศทาง “ฟันด์โฟลว์” ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลเข้า (หุ้น+พันธบัตร) ภูมิภาค Asia (exJ) +5515 ล้านเหรียญฯ ไทยเงินไหลเข้า +167 ล้านเหรียญฯ (ขายหุ้น -40 ล้านเหรียญฯ ซื้อพันธบัตร 207 ล้านเหรียญฯ) เงินบาทแข็งค่า w-w ที่ 34.0 +/-บาท

Back to top button