“ทรัมป์” ยันไม่มีแผนปลด “พาวเวล” พ้นตำแหน่งประธานเฟด  

 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (9 ธ.ค.67) สำนักข่าว “ซีเอ็นเอ็น” รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 47 เปิดเผยในรายการ “มีท เดอะ เพรส วิท คริสเท่น เวลเกอร์” ของสถานี NBC ว่า เขาไม่มีแผนที่จะหาใครเข้ามาทำหน้าที่แทน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.68 ที่จะถึงนี้

โดย ทรัมป์ กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่าน “เอ็นบีซี” ว่ายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนตัวประธานเฟด แต่ก็คิดว่าถ้าหากบอกให้พาวเวลลาออก เขาก็คงจะลาออก อย่างไรก็ตามหากใช้วิธีขอร้องให้เขาลาออก เขาก็คงจะไม่ลาออก

ก่อนหน้านี้ พาวเวล ได้ชี้แจงชัดเจนภายในไม่กี่วันหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯเสร็จสิ้นว่า เขาพร้อมปกป้องความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ จากแรงกดดันทางการเมือง และขอยืนกรานหนักแน่นว่า ทรัมป์ ไม่มีอำนาจที่จะไล่เขาหรือผู้นำระดับสูงของเฟดคนไหนก็ตามออกจากตำแหน่งได้

ขณะที่ ทรัมป์ เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “บลูมเบิร์ก” เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า เขาควรมีสิทธิ์ในการออกนโยบายการเงินและการกำหนดอัตราดอกเบี้ย เพราะด้วยตำแหน่งประธานาธิบดี เขามีสิทธิที่จะพูดว่าเฟดควรปรับขึ้นหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกคำสั่งดังกล่าว แต่เขาเชื่อว่าตนเองมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรขึ้นหรือลงอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ พาวเวล จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของในเดือนพ.ค.69 ซึ่งเคยกล่าวให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่าเขาจะไม่ยอมออกจากตำแหน่งจนกว่าจะครบวาระ ไม่ว่าทรัมป์ขอให้เขาลาออกหรือไม่ก็ตาม

อนึ่ง เมื่อวันที่  5 ธ.ค.67 ที่ผ่านมาว่า งานเสวนา New York Times DealBook Summit ซึ่งจัดขึ้นที่นครนิวยอร์กว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้นว่า เขาไม่รู้สึกวิตกกังวลว่า เฟดจะสูญเสียสถานะการเป็นองค์กรอิสระภายใต้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ และไม่กังวลว่าทรัมป์จะพยายามทำให้เฟดตกเป็นเป้าหมายทางการเมืองหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า รัฐบาลของทรัมป์พยายามที่จะแทรกแซงนโยบายการเงินของเฟดและอาจจะถึงขึ้นแต่งตั้ง “ประธานเงา” ให้ขึ้นมาประกบดูแล เฟด เพื่อลดทอนอำนาจของพาวเวล  แต่ตามกฎหมายที่กำหนดขึ้นโดยสภาคองเกรสนั้น จะเป็นเกราะป้องกันเฟดและจะช่วยปกป้องความเป็นอิสระของ เฟด ให้ปลอดภัยจากอิทธิพลทางการเมือง