“แพทองธาร” โชว์โมเดลปี 68 ทำทันที “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-ลดค่าไฟ-น้ำ” ช่วยประชาชน

“แพทองธาร” แถลงในผลการดำเนินงานของรัฐบาลครบรอบ 3 เดือน ย้ำปี 68 คือปีแห่งโอกาสคนไทย ชูปีหน้าทำทันที รถไฟฟ้า 20 ตลอดสาย-ลดค่าไฟ-น้ำ ช่วยลดภาระประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (12 ธ.ค.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน ระบุว่าอยู่ในช่วงปรับตัวทั้งตนเองและทีมรัฐบาล โดยมองภาพประเทศไทยปี 68 รัฐบาลจะสร้างความฝันให้เกิดขึ้นจริงเป็น “นโยบายกินได้” และจะทำให้ปี 68 เป็นปีแห่งโอกาสของคนไทยทุกคน ที่จับต้องได้ ทำได้จริง ให้เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมกับเปิดวางโมเดลหลักๆดังต่อไปนี้

  1. แก้ปัญหาน้ำท่วมและปัญหาน้ำแล้ง โครงการคุยกับเจ้าท่าเรื่องให้ชาวบ้านขุดดินขุดโคลนจนสามารถสร้างอาชีพและรายได้ รวมถึงการสร้าง Flood Way มอบหมายให้ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้
  2. ปัญหา PM 2.5 คืนสุขภาพดีให้กับประชาชน จะต้องทำให้การเกิดฝุ่นน้อยลงทุกปี โดยเฉพาะการควบคุมการเผาไหม้ อาทิ เชียงใหม่ ภาคเหนือ ให้มีการลดพื้นที่เผาไหม้ลง 50% เทียบกับปีที่แล้ว ลดลงอีก 30%
  3. ปัญหายาเสพติด ขอให้ประชาชนร่วมมือช่วยเหลือรัฐบาลด้วย ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มแจ้งโดยตรงถึงนายกรัฐมนตรี หน่วยงานของรัฐจะปกปิดข้อมูลผู้แจ้งข้อมูลมา โดยจะมีหน่วนราชการ ภาครัฐ และ ตำรวจ รวมถึงทีมที่เกี่ยวข้อง จะมีคนทราบไม่กี่คนในเชิงลับ เพื่อร่วมแก้ปัญหาแบบเจาะลึกในรายละเอียด
  4. การผูกขาดทุกชนิด ทำให้ประชาชนยากจนลง ปลดล็อคให้เกษตรกรทุกคน โดยต้องทลายทุนผูกขาด รัฐบาลปลดล็อคให้ประชาชนส่งออกข้าวด้วยตนเองได้ ทำให้เอสเอ็มอีมีโอกาสตรงนี้ ต้องแก้กฎหมายรองรับ ราคาพลังงานยังเป็นต้นทุนของประชาชนค่าพลังงานของพี่น้องประชาชนต้องลดลง น้ำ ไฟ น้ำมัน โดยได้มอบหมายให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้
  5. ค่าไฟ ค่าพลังงานต่างๆ ที่เป็นต้นทุนของประชาชน ซึ่งในปี 68 ค่าพลังงานของพี่น้องประชาชนต้องลดลง ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าน้ำมัน จะต้องลดลง โดยมอบหมายให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้
  6. สุราชุมชน โดยระบุว่าตลาดเครื่องดื่มไทยเช่นน้ำแร่และน้ำหวานมีการส่งออกมากกว่าปีละ 7 หมื่นล้านบาท และรัฐเก็บภาษีได้มากกว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยได้มอบหมายให้นาย อนุทิน ชาญวีรกูล และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สองรองนายกฯเป็นผู้ดูแลเรื่องดังกล่าว
  1. นำธุรกิจนอกระบบให้กลับมาอยู่ในระบบ ธุรกิจใต้ดินขึ้นมาไว้บนดินเพื่อทำให้ถูกต้องกฎหมาย เนื่องจากยังมีมาเฟียและมีการคอร์รัปชั่น ดังนั้นต้องนำมาเก็บภาษี โดยมอบหมายให้สองรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รับเรื่องดังกล่าวไปดูแล
  2. การลงทุนธุรกิจของอนาคต Future Investment อาทิ GOOGLE และ MICROSOFT ไทยแสดงความพร้อมเป็นสำหรับ AI ยิ่งมีดาต้าเมื่อเอไอฉลาดมากขึ้นประเทศไทยก็จะมีโอกาสมากขึ้น โดยไทยจะต้องเตรียมตัวในการพัฒนาคน เนื่องจากเอไอมีบทบาทสำคัญ อีกทั้งการมี DATA เพิ่มมากขึ้น จะทลายกำแพงภาษาเมื่อมีเอไอ รัฐบาลจะลงทุนเพิ่มAI รวมถึง รถ EV เซมิคอนดักเตอร์ จะสร้างคนไทยให้ได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย มอบหมายให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นผู้ดูแลเพื่อจะให้ราคารถพลังงานไฟฟ้ามีการรองรับการลงทุนด้วย

นอกจากนี้ยังเปิดเผยจะมีโครงการ  9. โครงการ Green Energy  10. ครัวไทยสู่ครัวโลก  และ 11. เปลี่ยนประเทศไทยให้มีเฟสติวัลตลอดทั้งปี เนื่องจากไม่อยากให้เกิด Low-Season ขึ้น

อย่างไรก็ดี หลังจากพักเบรก นายกฯแพรทองธาร ยังได้เปิดเผยโครงการสำคัญเพิ่มเติมในปี  68 ที่รัฐบาลจะเร่งให้เกิดขึ้นมีดังนี้

(1) โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน  จะนำกลับมาใช้ รัฐจะจัดทุนการศึกษาไปเรียนต่างประเทศ จะใช้เงินสำนักงานสลากกินแบ่งฯ

(2) โครงการ 1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์ โดยจะให้เยาวชนได้มีโอกาส เดินทางไปเข้าซัมเมอร์แคมป์ 5-8 สัปดาห์ในต่างประเทศ เพื่อเปิดโลกให้เด็กไทยออกนอกประเทศ

(3) สร้างโรงเรียนต้นแบบ ประจำอำเภอ ซึ่งจะสอนแบบ Bi-lingua หรือ สอนแบบ AI  โดยระบุว่าจะนำเงินสำนักงานสลากฯและอัพเดตเงินประจำอำเภอ ซื้อลิขสิทธิ์การศึกษา ทั้ง 3 โครงการข้างต้นจะมีการลงทะเบียนปี 68  เริ่มลงทะเบียนปีหน้า มอบหมายให้กับ 3 รองนายกฯ ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ,นาย อนุทิน ชาญวีรกูล และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง

(4) SML กระจายอำนาจสู่ชุมนุม (Empowering Thais) ไทยมี SME มากกว่า 45% โดยทุกคนในหมู่บ้านต้องระดมสมองกันเพื่อแก้ปัญหาในท้องถิ่น คนในอำเภอต้องบอกรัฐบาลว่าจะลงทุนอย่างไรให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ จะกระจายอำนาจและกระจายลงสู่ประชาชนเริ่มปีหน้า

(5) โครงการ Soft Loan จะต้องช่วยให้เอสเอ็มอี กลับมายืนได้อีกครั้ง

(5) โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งคนไทยในเมืองบางคนไม่มีบ้าน ราคาบ้านในเมืองแพง โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรและอยู่ในทำเลที่ดี โดยจะเริ่มจากพื้นที่ของการรถไฟในกรุงเทพฯ สร้างคอนโดฯ เนื้อที่ประมาณ  30 ตารางเมตร ไม่มีระบบเงินดาวน์ เริ่มต้นเดือนละ 4,000 ผ่อนไม่เกิน  30 ปี สิทธิ์อยู่ได้ 99 ปี  ซึ่งเด็กจบใหม่สามารถซื้อบ้านดังกล่าวได้ มอบหมาย 2 รองนายกฯ พิชัย ชุณหวชิร และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ดูแล

(6) โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในปี 68 โดยที่ผ่านมาประชาชนนั่งยาวต้องจ่ายถึง 150 บาท และนับเป็นรายจ่ายจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลมุ่งหวังจะลดรายจ่ายให้ประชาชน พร้อมยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงในปีหน้าแน่นอน

(7) ดิจิทัล วอลเล็ต หวังผลักดันให้ GDP โตเพิ่ม 3% โดยจะเติมเงินเข้าระบบ หลังจากเติมเข้าไปแล้วให้ในกลุ่มแรก โดยระบุดังนี้ เฟส 1 จ่ายแล้วกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน , เฟส 2  จะจ่าย ให้ผู้สูงอายุ 4 ล้านคน ไม่เกินตรุษจีน 68 นี้ และกลุ่มสุดท้ายในเฟส 3 จะจ่ายให้บุคคลทั่วไป ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งเกิดภายในปี  68 แน่นอน โดยระบุว่าดิจิทัล วอลเล็ต เป็นการเชื่อมต่อประชาชนกับรัฐบาล ยกระดับประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนรับประโยชน์จากรัฐได้โดยเร็ว

(8) แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ยกให้เป็นวาระแห่งชาติ ทั้งหนี้จากรถและบ้าน ทำให้รัฐเก็บภาษีได้น้อย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยและแบงก์พาณิชย์จะให้ลดเงินเข้ากองทุนฟื้นฟู (FIDF) 0.23% เป็น 39,000 ล้านบาท และพักดอกเบี้ยนาน 3 ปี คาดหวังให้ประชาชนลืมตาอ้าปากให้ได้ โดยจะเริ่มในปี 68 นี้แน่นอน ในส่วนประชาชนพวกหนี้ NPL อยู่ 335,000 บัญชี รัฐจะช่วยให้กลับมาเคลียร์หนี้ตรงนี้ให้ได้ มอบหมายนายพิชัย ชุณหวชิร รับหน้าที่ไปดูแล

ท้ายสุดนี้ แพรทองธาร นายกฯไทย ได้เชิญชวนให้ทุกคนร่วมมือกันเป็นทีมเดียวกันและเชื่อว่าศักยภาพของคนไทยจะเพิ่มมากขึ้น ปีหน้าจะเป็นปีแห่งความหวังอย่างแน่นอน

Back to top button