จับตา CPF-GFPT-BTG-TFG-FM ตีปีก! รับราคาเนื้อไก่พุ่ง ชู “ซีพีเอฟ” ท็อปพิก เคาะเป้า 30 บ.
โบรกแนะซื้อ CPF-GFPT-BTG-TFG-FM รับราคาเนื้อไก่ในประเทศเพิ่มขึ้น รับช่วงไฮซีซั่น ชู CPF เด่นสุด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจราคาเนื้อไก่ภายในประเทศ โดยข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในหลายๆ พื้นที่ แบ่งเป็น ภาคเหนือตอนบน–ล่าง สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าราคาอยู่ที่ 40-43 บาท ภาคอีสานตอนบน ราคาอยู่ที่ 47-48 บาท, ไก่เล็ก 51-53 บาท, อีสานตอนล่าง ราคาอยู่ที่ 42-43 บาท, ไก่เล็ก 49-50 บาท, ภาคกลาง ราคาอยู่ที่ 38-40 บาท, ภาคตะวันออก ราคาอยู่ที่ 40-42 บาท, ตะวันตก ราคาอยู่ที่ 37-38 บาท, ภาคใต้บน ราคาอยู่ที่ 47-48 บาท ใต้ล่าง ราคาอยู่ที่ 47-49 บาท
เบื้องต้นประเมินว่าบริษัทที่ได้ประโยชน์จากราคาไก่ที่ปรับตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายปี และต้นปีหน้าเข้าช่วง เทศกาลตรุษจีน ในเดือนมกราคมจะส่งผลให้ยอดสั่งซื้อเนื้อไก่สดเพิ่มขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT, บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG, บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG และ บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เป็นต้น
โดยสอดคล้องกับบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ระบุว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่าน ราคาไก่ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 37.5 บาท/กก. เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว
เช่นเดียวกับ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ในไทยประจำเดือน ธ.ค.67 เป็นช่วง High Seasons ฤดูกาลท่องเที่ยวทำให้คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น สนับสนุนราคาเนื้อสัตว์รวมกับผลดีของต้นทุนที่ลดลงทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 4/67 ยังคงเห็นการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้ จึงยังคงน้ำหนักการลงทุนไว้ที่ “เท่าตลาด” และเลือก CPF เป็น Top Picks ของกลุ่มนี้ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท
ทั้งนี้ หากย้อนไปราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเดือน พ.ย. โดยเฉพาะในส่วนของราคาเนื้อไก่ อยู่ที่ 37 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 8 จากเดือนก่อนหน้า เทียบกับปีก่อนยังถือว่าสูงแต่เทียบกับเดือนก่อนหน้าเป็นการปรับตัวลดลงมาเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม การส่งออกไก่จากประเทศไทยเดือน ต.ค. อยู่ที่ 392 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากเดือนก่อนหน้า เติบโตมากในกลุ่มไก่สดแช่แข็ง เพี่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% จากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ด้านต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ในเดือน พ.ย. อยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาข้าวโพดอยู่ที่ 9.75 บาทต่อกิโลกรัม ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 2% จากเดือนก่อนหน้าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 64 ที่เคยอยู่ที่ 9.35 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ในบทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้แนะนำ “ซื้อ” GFPT ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท โดยได้มีการปรับเป้าปี 67 ภาคการส่งออกไตรมาส 4/67 ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้าตามฤดูกาลแต่ยังทรงตัวสูง ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์ GFPT เมื่อวันที่ 12 พ.ย. จากประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.) ปรับเป้าปี 67 ใหม่ โดยปรับรายได้ลง 2-3% จากเดิมเพิ่มขึ้น 3-5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับอัตรากำไรขั้นต้น GPM ขึ้นเป็น 13.5-14.5% จากเดิม 12.5-13.5% หลัง GPM งวด 9 เดือน ปี 67 สูงกว่าคาดการณ์จากอานิสงส์ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงและปริมาณส่งออกยุโรปปรับตัวดี
2.) แนวโน้มปริมาณส่งออกไก่ในไตรมาส 4/67 จะทรงตัวสูงอยู่ที่ 9,000 ตัน ขยายตัวจากไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 7,700 ตัน แต่ชะลอเล็กน้อยจากไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 9,500 ตัน ตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ GPM ไตรมาส 4/67 มีโอกาสอ่อนตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าจากต้นทุนข้าวโพดสูงขึ้น แต่ถูกชดเชยบางส่วนจากต้นทุนกากถั่วเหลืองทรงตัวต่ำ
3.) มองว่าทิศทางราคาไก่ในประเทศและราคาโครงไก่หลังจากนี้จะทยอยฟื้นตัวจากปัจจุบันที่ราว 36 บาท/กก. และ 11 บาท/กก. เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลหลังผ่านฤดูฝน และ 4.) คาดการณ์โรงเชือดไก่แห่งใหม่จะเริ่มทดสอบการผลิตในต้นปี 68 และดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ไตรมาส 3/68
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI แนะนำ “ซื้อ” BTG ราคาเป้าหมาย 22.88 บาท โดยฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายของ BTG จะเพิ่มขึ้น 9% เป็น 1.239 แสนล้านบาทในปี 68 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของราคาหมูในประเทศไทย โดยโรงงานอาหารสัตว์แห่งใหม่ของ BTG ซึ่งมีกำลังการผลิต 4.08 แสนตัน/ปี (10% ของกำลังการผลิตรวม) เริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 3/67 ในขณะเดียวกัน ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตไก่จะเพิ่มขึ้น 14% ในปี 67 ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนปริมาณยอดขายในปี 68
อีกทั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ถึง TFG แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท โดยคาดการณ์ว่าธุรกิจไก่ปี 67-68 จะดีขึ้น ซึ่งในปี 67 ราคาไก่ปรับตัวดีขึ้นจากตลาดโลก โดยไข้หวัดนกระบาดที่บราซิลมีผลในการส่งออกของบราซิลไปประเทศยุโรปและญี่ปุ่นลดลงจากความเข้มงวดเรื่อง food safety ส่งผลให้ราคาไก่ตลาดโลกดีขึ้น ประกอบกับตลาดยุโรปนำเข้าไก่จากยูเครนลดลงจากภาวะสงคราม
2.) ธุรกิจไก่ปี 68 จะเติบโตจากความต้องการ (Demand) ส่งออกที่เพิ่มขึ้นทั้งยุโรปและญี่ปุ่นมีการกระจาย port สินค้าไก่ไทยเพิ่มขึ้นและค่าขนส่งลดลงสู่ระดับปกติ ยกเว้นจีนที่มีค่าครองชีพสูงขึ้น บริษัทคาดการณ์ว่าจะส่งออกเพิ่มขึ้น 10-20% จากการขยายกำลังการผลิตธุรกิจไก่สดชำแหละเพิ่มขึ้น 6% และธุรกิจไก่แปรรูปเพิ่มขึ้น 20%
โดยบริษัทมองราคาไก่ในประเทศปี 68 จะอยู่ที่ระดับ 38-42 บาท/กก (จากช่วง ม.ค.- พ.ย. เฉลี่ยที่ 41 บาท/กก.) หลัง supply ไก่ทั้งสดและแปรรูปปรุงสุกในประเทศเพิ่มขึ้น 7-10% และต่อเนื่องในปีหน้า แม้ว่าบริษัทมองราคาไก่ลดลงแต่ต้นทุนลงทาให้ยังมีส่วนต่างกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด แนะนำ “ซื้อ” FM ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้นจากธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากการขยายไลน์ผลิตที่ 5 ใหม่และการขยายตลาดส่งออก